YLG เผยทองคำพุ่งแรงต่อ ลุ้นเฟดไม่ขึ้นดบ. หลังกลุ่มแบงก์สหรัฐขาดเสถียรภาพ

YLG เผยทองคำพุ่งแรงต่อ ลุ้นเฟดไม่ขึ้นดบ. หลังกลุ่มแบงก์สหรัฐขาดเสถียรภาพ

วายแอลจี เผยทองคำมีแนวโน้มพุ่งแรงทำนิวไฮของปี ตลาดหวังผลประชุมเฟด มี.ค.ไม่ขึ้นดอกเบี้ย หลังกลุ่มแบงก์สหรัฐอ่วม  แนะนักลงทุนระวังลงทุนทองคำ อาจมีแรงขายทำกำไรสลับ จังหวะย่อตัวเข้าเก็บ มองแนวต้าน 1,871 – 1,958 ดอลลาร์ ราคาทองในประเทศกรอบ 31,600-31,900 บาท

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG)  เปิดเผยว่า จากกรณีที่กลุ่มธนาคารในสหรัฐขาดเสถียรภาพในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นจากนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ราคาของพันธบัตรกลับสวนทางกับอัตราผลตอบแทน ดังนั้นเมื่อธนาคารมีการบันทึกบัญชีจากการถือครองพันธบัตรจึงทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก ปัจจัยนี้จึงทำให้เกิดการเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐ เพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่ จึงทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพของกลุ่มธนาคารในสหรัฐ และทำให้บางแห่งเกิดการปิดกิจการ

อย่างไรก็ดีการประชุมเฟดในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 2566 มีการคาดการณ์แตกต่างจากก่อนหน้าที่ที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% มาเป็นคาดการณ์ว่าว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในช่วงวันที่ 21-22 มีนาคม 2566 รวมถึงปรับขึ้นอัตราดอกบี้ยเพียง 0.25% เริ่มมีสัดส่วนการคาดการณ์ที่มากกว่า ดังนั้นต้องจับตาว่าการขาดเสถียรภาพของกลุ่มธนาคารในครั้งนี้จะก่อให้เกิดวิกฤตทางการเงินหรือไม่ ซึ่งต้องดูการประชุมของเฟดในครั้งที่จะถึงนี้

สำหรับผลกระทบต่อตลาดทองคำ ยังต้องดูการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อประกอบ ถ้าหากเงินเฟ้อไม่พุ่งรุนแรงมากเช่นครั้งก่อนหน้า ก็อาจจะทำให้ทองคำย่อตัวอย่างจำกัด อย่างไรก็ดีการย่อตัวของทองคำถือเป็นโอกาสให้เข้าซื้อ เพราะแนวโน้มทองคำยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ ภาพรวมยังแกว่งตัวในขาขึ้นค่อนข้างชัดเจน โดยราคาทะยานขึ้นอย่างรุนแรง สวนทางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. 


โดยแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำเข้าใกล้จุดสูงสุดที่ 1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยเฉพาะบริษัท 1,940 -1,958 ราคาอาจจะมีแรงขายทำกำไรสลับลงมา เพราะระดับทองคำช่วงนี้เป็นจุดสูงสุดของปี ส่วนแนวรับแรกมองที่ 1,887 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่เนื่องจากเทรนด์ยังเป็นขาขึ้นได้ต่อ จึงสามารถ ทยอยเข้าซื้อ

โดยแนวรับรับสำคัญอยู่ที่ 1,871 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดแนวรับนี้มีโอกาสปรับขึ้นต่ออย่างชัดเจน เพราะกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่เริ่มกลับเข้าซื้อทองคำ จึงเป็นอีกปัจจัยหนุนสำคัญ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นแรง
ส่วนราคาทองคำในรูปของเงินบาท มองกรอบแนวรับ 30,900 - 30,600 บาท แนวต้าน 31,900 บาท

ทั้งนี้นักลงทุนที่ต้องการการลงทุนทองคำในรูปแบบสกุลเงินต่างประเทศ สามารถลงทุนผ่านแพลตฟอร์มลงทุนทองคำบนแอปพลิเคชัน YLG Gold Investment ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแรกของไทยที่จะยกระดับการลงทุนในทองคำที่สามารถซื้อขายทองคำได้ถึง 5 สกุลเงินหลัก ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ หยวน ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และเงินบาท เพื่อสร้างความหลากหลายเพราะเป็นการเพิ่มช่องทางทำกำไรในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาวะที่ค่าเงินผันผวน และพิเศษในช่วงนี้ YLG ลดเงินวางประกันสำหรับเทรดทองคำบน แอปฯ YLG Gold investment จากการวางเงินประกัน 100,000 บาท เหลือ 50,000 บาท