“อุตตม”แนะคลังดูแลสามเสาหลักเศรษฐกิจ หวั่นตระหนกปิด2แบงก์สหรัฐ

“อุตตม”แนะคลังดูแลสามเสาหลักเศรษฐกิจ หวั่นตระหนกปิด2แบงก์สหรัฐ

“อุตตม”แนะคลังดูแลสามเสาหลักเศรษฐกิจใกล้ชิด หวั่นปิด2แบงก์ในสหรัฐสร้างความตระหนกจนเกิดผลกระทบแม้เสถียรภาพเศรษฐกิจเข้มแข็ง

นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุ เหตุการณ์ที่ Silicon Valley Bank ธนาคารใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 20 ของสหรัฐอเมริกา ประสบปัญหารุนแรงจนทางการสหรัฐต้องเข้าควบคุมกิจการ เพื่อดูแลประชาชนและลูกค้าที่อาจถูกผลกระทบนั้น ทำให้เกิดความกังวลได้ว่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ลุกลามเป็นลูกโซ่กระทบกับธนาคารอื่นๆในสหรัฐฯและตลาดทุน/การเงินโลกทำนองเดียวกับHamburger Crisis ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2008 หรือไม่

โดยล่าสุดหน่วยงานในสหรัฐก็ออกแถลงการณ์สั่งปิดกิจการธนาคาร Signature Bank ในรัฐนิวยอร์กเพิ่มอีกหนึ่งธนาคาร ด้วยเหตุผลว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงในระบบธนาคารของประเทศ ซึ่งเราย่อมไม่อยากให้เกิดความตระหนกจนเกินกว่าเหตุ

วิกฤตสถาบันการเงินมักมีจุดเริ่มต้นจากความไม่เชื่อมั่นของผู้ฝากเงิน และแห่ถอนเงินพร้อมๆกัน ซึ่งต่อให้ธนาคารนั้นจะใหญ่จขนาดไหนก็เสี่ยงกับการขาดสภาพคล่องเฉียบพลันได้ การที่หน่วยงานสหรัฐตัดสินใจดำเนินการรวดเร็วถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและเหมาะสม

จากเหตุการณ์ที่เกิดในอดีต ความตื่นกลัว ข่าวลือ ที่ขยายวงรวดเร็วและนำไปสู่ปัญหารุนแรง หากไม่เกี่ยวกับทุจริตหรือเหตุเฉพาะสถาบันนั้นๆ ก็มักมีที่มาจากสถานการณ์หรือแนวโน้มเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้คนกังวลว่าสถาบันบางประเภท บางกลุ่มจะประสบปัญหารุนแรง

สำหรับประเทศไทย เราควรติดตามสถานการณ์ในสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับในหลายประเทศ  สามเสาหลักของระบบเศรษฐกิจไทยคือ ภาคเศรษฐกิจจริงของการผลิต/บริการ (real economy) ภาคการธนาคาร และภาคตลาดเงินตลาดทุน ซึ่งความตื่นตระหนกจนลุกลามสามารถเกิดขึ้นได้จากเหตุการณ์ในทั้งสามเสาหลัก

โดยในภาพรวมเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจขึ้นกับความเข้มแข็งของเสาหลักที่ยึดโยงระหว่างกัน ซึ่งข้อมูลจากทางการบ่งชี้ว่าภาคธนาคารและตลาดทุนของไทยมีความเข้มแข็งในระดับที่ดีสำหรับภาคเศรษฐกิจจริง ปีนี้เป็นช่วงเวลาท้าทายสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งภายนอกและภายในประเทศ เหตุการณ์ในสหรัฐย่อมเพิ่มความซับซ้อนในเวทีโลก ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องไม่ประมาทในการบริหารดูแลทั้งสามเสาหลักของเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดในลักษณะที่เชื่อมโยงกัน 

ประเทศไทยเรามีองค์กรภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนและดูแลเศรษฐกิจครบถ้วน ทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งสภาอุตสาหกรรม หอการค้า สมาคมธนาคารไทย สภาตลาดทุน สมาคมบลจ. ประสบการณ์กับวิกฤตที่ผ่านมาชี้ให้เราเห็นความจำเป็นในการทำงานร่วมกันเชิงรุกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารไม่ว่าเป็นจริงหรือที่ลือสามารถถูกถ่ายทอดได้ทันที 24 ชม. เพื่อเตรียมมาตรการล่วงหน้าและพร้อมปรับเปลี่ยนให้ทันการ ตลอดจนสื่อสารให้ข้อมูลกับสังคมอย่างเหมาะสม

จากข่าวสารข้อมูลยังไม่ปรากฏพบความผิดปกติร้ายแรงที่กระทบวงกว้างในสหรัฐ ซึ่งเราหวังว่าทางการสหรัฐจะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะการฟื้นตัวของทั้งเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยยังมีความเปราะบาง ซึ่งย่อมอ่อนไหวต่อสถานการณ์ในสหรัฐและแรงกระเพื่อมที่กำลังเกิด ซึ่งก็เป็นเวลาที่การเมืองในประเทศกำลังเข้มข้นอีกด้วย