จับตารัสเซีย-ยูเครนปะทุ ลุ้น "ราคาทองคำ" ทำนิวไฮใหม่

จับตารัสเซีย-ยูเครนปะทุ  ลุ้น "ราคาทองคำ" ทำนิวไฮใหม่

ทิศทางราคา “ทองคำ” วานนี้ (1ก.พ.2566) มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค. ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

อีกทั้งยังมี "ปัจจัยบวก" หนุนทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกปี 2566 หลังมีกระแสข่าวว่า ธนาคารกลางทั่วโลก แห่ตุนทองคำสำรองมากที่สูงในรอบ 55 ปี ในปี2565ซื้อทองคำเข้าคลังสำรองสูงถึง 1,136 ตัน มูลค่า 70,000 ดอลลาร์ มากที่สุดตั้งแต่ปี 2510

 จากความกังวลปัจจัยสงครามรัสเซียกับยูเครนและความขัดแย้งในหลายๆ ประเทศปะทุขึ้นมาใหม่ รวมถึงแนวโน้มวิกฤติเศรษฐกิจมหภาคโดยเฉพาะความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย “กรุงเทพธุรกิจ” มีมุมมองเหล่า “กูรูทองคำ” คาดแนวโน้มราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น และยังมีโอกาสราคาทองคำปรับขึ้นไปทะลุจุดสูงสุดเดิมได้  

จับตารัสเซีย-ยูเครนปะทุ  ลุ้น \"ราคาทองคำ\" ทำนิวไฮใหม่

ครึ่งแรกปัจจัยหนุนเพียบ ลุ้น2,100ดอลลาร์  

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ห้างขายทอง จินฮั้วเฮง ในฐานะนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำยังเป็น "ขาขึ้น" ในช่วงครึ่งแรกปีนี้แตะ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ซึ่งเป็นระดับไฮเดิมปีก่อน ในช่วงมี.ค. 2565 ราคาทองคำ spot ทำสุดสูงสุดรอบปีที่ระดับ 2,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ทองคำไทย32,100 บาท) ยังมีโอกาสทะลุไฮเดิมไปที่ระดับ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ 

จากเฟดชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ยปีนี้และทิศทางดอลลาร์อ่อนค่า หนุนราคาทองต่างประเทศขึ้นต่อได้ ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นอาจกดดันราคาทองในประเทศปรับขึ้นไม่ได้มากในช่วงที่่ผ่านมา จากบาทอ่อนค่าปีก่อนที่ 38-39 บาทต่อดอลลาร์ มองเป็นภาวะไม่ปกติเป็นการเก็งกำไร แต่หากปีนี้เงินบาทกลับมาแข็งค่าระดับปกติ 31-32 บาทต่อดอลลาร์ เป็นโอกาสเข้าซื้อทองคำในราคาถูกหนุนทองปรับขึ้นได้เช่นกัน   

อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นทองคำอาจจะมีแรงขาย sell on fact ในช่วงสั้นๆ หลังประชุมเฟดรอบนี้ชะลอขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.25% ส่วนใหญ่รับข่าวแล้ว ระหว่างทางราคาทองคำยังมีโอกาสผันผวนตามอัตราแลกเปลี่ยน รอเข้าซื้อสะสม ราคาต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์

“ทองคำ”ระยะยาวยังสดใส                                        ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นางสาวศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด  กล่าวว่า หากเฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาดที่ 0.25% คาดว่าราคาทองน่าจะซึมซับข่าวนี้ไปแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และประเมินรอบนี้ประธานเฟดอาจจะส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยหนุน "ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย"
 

แต่การปรับตัวขึ้นทองคำระยะสั้นมีกรอบจำกัด หลังปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือนแล้ว แนวโน้มทองคำระยะสั้น ราคาทองต่างประเทศแนวรับ 1,900-1,910 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้าน 1,935-1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมองแนวต้านสำคัญ 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์  

ราคาทองแท่งในประเทศ แนวรับ 29,700-29,800 บาท แนวต้าน 30,050-30,100 บาท หากผ่านขึ้นไปได้มีโอกาสเห็นที่ 30,200 บาท ขึ้นกับเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน ซึ่งเงินบาทช่วงที่ผ่านมากลับมาอ่อนค่าบ้างช่วยหนุนราคาทองแท่งในประเทศ

กลางปีนี้แตะไฮเดิม 2,000 ดอลลาร์  
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย มองว่า  ราคาทองคำรอบนี้ปรับขึ้น จากข่าวธนาคารกลางทั่วโลกแห่งตุนทองในปี 2565 ทำให้ทางสภาทองคำโลก (WGC) ชี้อาจมีการซื้อมากกว่าที่คาดไว้ได้ และข่าวสหรัฐอาจจะพิจารณาส่งเครื่องบิน F-16 ให้ยูเครน หลังยูเครนเรียกร้องหนักขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐปฏิเสธการส่ง F-16 มาตลอด หลังจากที่สหรัฐและเยอรมันมีการส่งรถถังประสิทธิภาพสูงให้แล้ว

ดังนั้น ช่วงกลางปีนี้แนวโน้มราคาทองจะวิ่งสวนทางกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์ มองว่า Dollar index จะไม่หลุด 100 ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำ spot น่าจะขยับขึ้นไม่เกิน 2,000 ดอลลาร์

ยังแนะนำลงทุนทองคำประมาณ 5-10% ของพอร์ตลงทุนไว้ป้องกันความเสี่ยงในกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน รุนแรงขึ้น และกรณีเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง