3 ปัจจัยกระตุ้นตลาดคริปโท กูรูแนะระวังแรงเก็งกำไร หลังบิตคอยน์ทดสอบนิววไฮ

3 ปัจจัยกระตุ้นตลาดคริปโท  กูรูแนะระวังแรงเก็งกำไร หลังบิตคอยน์ทดสอบนิววไฮ

เมอร์เคิล แคปปิตอล เปิดกลยุทธ์ลงทุนคริปโทในเดือนมีนาคม คาดเติบโตต่อเนื่อง ได้แรงหนุน Bitcoin SPOT ETF สะท้อนดีมานด์แรงเกินซัพพลายด์ ชี้มีโอกาสเกิดแรงเทขายระยะสั้น สวนทางกับพื้นฐานและข่าวดีที่เกิดขึ้น

KEY

POINTS

  • Merkle’s คาดมีนาเติบโตต่อเนื่อง Bitcoin SPOT ETF ดีมานด์แรงเกินซัพพลายด์
  • 3 ปัจจัยกระตุ้นตลาดคริปโท
  • บิตคอยน์ ทดสอบราคา All Time High พบแรงเทขายทำกำไร 

เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ราคาของ BTC ปรับตัวสูงที่สุดในรอบ 28 เดือน เป็นผลจากการลงทุนใน Bitcoin spot ETF ซึ่งเป็นเม็ดเงินใหม่จากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ทำให้ราคาของ BTC เมื่อเทียบกับสกุลเงินบาทและสกุลอื่น ๆ จำนวนมาก ผ่านราคา All time high แล้ว 

อย่างไรก็ตาม ราคาของ BTC ในสกุลเงินดอลลาร์ ณ ปัจจุบัน (65,000 ดอลลาห์สหรัฐ) ใกล้จะทดสอบ All time high อีกครั้ง ทำให้มีโอกาสเกิดแรงเทขายระยะสั้น สวนทางกับพื้นฐานและข่าวดีที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บทความนี้นำข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมของ Bitcoin และสถานการณ์ของ Bitcoin spot ETF หลังจากการเปิดขายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคต โดยเฉพาะ Ethereum

3 ปัจจัยกระตุ้นตลาดคริปโท  กูรูแนะระวังแรงเก็งกำไร หลังบิตคอยน์ทดสอบนิววไฮ

ดังนั้น Merkle Capital มองว่า ภาพรวมตลาดคริปโทฯ ยังมีแนวโน้มที่สามารถเติบโตได้สูงและน่าจับตามองในเดือนมีนาคม ด้วย 3 เหตุผลดังนี้

 

1)กระแสเงินไหลเข้า Bitcoin หลังอนุมัติ Spot ETF

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ (22 - 29 กุมภาพันธ์) พบว่ามีเม็ดเงินไหลเข้า Bitcoin spot ETF เฉลี่ย 391 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เมื่อพิจารณาร่วมกับ Supply ของ Bitcoin ที่ถูกขุดออกมาได้วันละ 930 BTC ที่ราคา 60,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 BTC

3 ปัจจัยกระตุ้นตลาดคริปโท  กูรูแนะระวังแรงเก็งกำไร หลังบิตคอยน์ทดสอบนิววไฮ

พบว่ามี Bitcoin ถูกขุดเป็นมูลค่า 55.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ทำให้เม็ดเงินใหม่ที่ไหลเข้า Bitcoin spot ETF นั้นสูงกว่า Bitcoin ที่ถูกขุดต่อวันถึง 6 เท่า

2) การเข้าซื้อ BTC มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Whale wallet

3 ปัจจัยกระตุ้นตลาดคริปโท  กูรูแนะระวังแรงเก็งกำไร หลังบิตคอยน์ทดสอบนิววไฮ

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีแรงซื้อ Bitcoin ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้น จำนวน 205,000 BTC ในราคาเฉลี่ย 44,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 BTC 

มากไปกว่านั้น ยังมีแรงซื้อของนักลงทุนรายใหญ่เกิดขึ้นกว่า 204,000 BTC ในราคาเฉลี่ย 51,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 BTC ดังนั้น ข้อมูลนี้จึงแสดงถึงความมั่นใจของนักลงทุนรายใหญ่ที่มีต่อ Bitcoin แม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างมีนัยยะสำคัญ

3) ปัจจัยสำคัญที่มีโอกาสส่งผลต่อมูลค่า ETH

แม้มูลค่าของ ETH จะปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 53% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในระยะกลางยังมีอีก 2 เหตุการณ์สำคัญที่มีโอกาสหนุนราคาของ ETH ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ คือ

1) การอัพเกรด EIP-4844 ในวันที่ 13 มีนาคม 2024 เป็นผลให้การทำงานของ Ethereum chain (ERC-20) เร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมต่ำลงเพื่อให้มีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น

2) การตัดสิน Final deadline ของ Ethereum spot ETF ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม โดยหากพิจารณาจาก Bitcoin จะพบว่าการอนุมัติ Bitcoin spot ETF เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าของ BTC เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ทดสอบนิวไฮ พบแรงขายเก็งกำไร

นายมานะ คานิโยว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านพัฒนาธุรกิจและพาณิชย์ บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ Bitcoin ได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมาแตะ All Time High ที่ 69,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบิตคอยน์เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ก็มีแรงขายปรับฐานขึ้น

3 ปัจจัยกระตุ้นตลาดคริปโท  กูรูแนะระวังแรงเก็งกำไร หลังบิตคอยน์ทดสอบนิววไฮ

ให้มองง่าย ๆ ก็คือการที่บิตคอยน์ไปทำ ATH นั้นหมายความว่านักลงทุนทุกคนที่เคยซื้อบิตคอยน์มา แม้ว่าจะราคาเท่าไหร่ก็กำไรกันทุกคนแล้ว ฉะนั้นการที่ราคาพุ่งสูงขึ้นไปทำจุดสูงสุดตามกลไกตลาดต้องมีการขายทำกำไรออกบ้าง “ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี” 

เพื่อให้ตลาดได้มีการปรับฐานและไปต่อ รวมไปถึงฝั่ง Future ก็มีการถูกล้างไปเยอะเหมือนกัน หรือเรียกง่ายๆ ก็คือการ shake off 

ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ตลาดขึ้นแรง ๆ จะมีแรงเทขายอยู่ระหว่างทางเสมอ แต่ถ้ามองภาพใหญ่หลังมีการปรับฐานก็มักจะขึ้นต่ออย่างแข็งแกร่งได้ดีจากภาพรวมข้างต้นจึงมองว่าเป็นจังหวะที่ดีที่สามารถทยอยสะสมหลังจากการปรับฐานครั้งนี้ ส่วนราคาหรือจังหวะก็ต้องเลือกกันให้ดีอีกทีครับ

 

**บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ควรวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน หากกังวลหรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินหรือหาที่ปรึกษาการลงทุนที่มีความชำนาญเพื่อช่วยเหลือในการตัดสินใจ