เวสต์เทกซัส 63.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 65.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา 

(+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส และเบรนท์ปรับเพิ่มกว่า 2% แตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนและรัสเซียได้เพิ่มระดับความรุนแรงของการโจมตีด้วยโดรนทางอากาศ

โดยยูเครนได้ทิ้งระเบิดสะพานทางหลวงของรัสเซียเหนือขบวนรถไฟโดยสารที่กำลังมุ่งหน้าสู่มอสโก และโจมตีเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียในไซบีเรีย ขณะที่รัสเซียตอบโต้ด้วยการส่งโดรนโจมตีพื้นที่ชายแดนภูมิภาคเคิร์สก์กว่า 34 ครั้ง ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดว่าการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจยังไม่บรรลุผล 

(+) กำลังการผลิตน้ำมันดิบในแคนาดาปรับลดลงกว่า 7% หลังเกิดเหตุไฟป่าในรัฐอัลเบอร์ตา ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตทรายน้ำมัน (oil sand) ของประเทศกว่า 0.344 ล้านบาร์เรลต่อวัน

(+) ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุน หลังทางการอิหร่านเตรียมปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่จะยุติข้อพิพาทด้านนิวเคลียร์ โดยมีประเด็นขัดแย้งต่อการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม โดยหากการเจรจาดังกล่าวล้มเหลว สหรัฐฯ อาจยังคงคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่านต่อไป

(+) หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 30 พ.ค. 68 ปรับตัวลดลงกว่า 3.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.9 ล้านบาร์เรล 
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ของปากีสถานที่เพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นภายในประเทศปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ราคายังคงได้รับแรงกดดัน หลังตลาดคาดตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนในเดือน มิ.ย. 68 มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือน พ.ค. 68

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานจากโรงกลั่นในจีน และญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการกลับมาดำเนินการผลิต หลังปิดซ่อมบำรุงไปในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงหนุน จากอุปสงค์จากสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน ขณะที่ตัวเลขการซื้อขายน้ำมันดีเซลของสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสามเดือน