วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SAWAD กำไรต่อหุ้นมี dilution จากหุ้นปันผล บนกำไรที่ชะลอตัว

สินเชื่อชะลอตัว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) ยังสูงต่อ
เราคิดว่าเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอลง และ ตลาดพันธบัตรที่ผันผวนจะบีบให้ SAWAD ต้องปล่อยกู้อย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะสภาพคล่องตึงตัวเหมือนช่วงปลายปี 2567 เราใช้สมมติฐานว่าบริษัทจะเน้นเร่งขยายสินเชื่อในช่วง 2H68 โดยคาดว่าสินเชื่อจะขยายตัว 2% QoQ และ หดตัว 3.5% YoY ใน 1Q68F ทั้งนี้ เนื่องจาก NPL ของสินเชื่อผู้บริโภคทั้งระบบยังสูงอยู่ เราจึงปรับเพิ่มประมาณการ credit cost เต็มปีเป็น 1.8% ทั้งในปี 2568F และ ปี 2569F (ประมาณการเดิมที่ 1.6%) จาก 1.9% ในปี 2567
ต้นทุนการระดมเงินมีแนวโน้มลดลงใน 2H68
ต้นทุนการระดมเงินของ SAWAD อาจจะไม่ลดลงในระยะสั้น เพราะต้นทุนที่สูงจากการออกหุ้นกู้ในช่วงปลายปี 2567 และ ต้นปี 2568 ทั้งนี้ อันดับเครดิตของ Fitch ที่ A- อาจจะทำให้บริษัทออกหุ้นกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง แต่เรายังไม่น่าจะเห็นผลกระทบจากต้นทุนการระดมเงินไปจนกว่าจะถึงกลางปี 2568F หรือ 2H68F โดยเราใช้สมมติฐานว่าต้นทุนการระดมเงินจะลดลง 20bps เป็น 4.1% ในปี 2568F
กำไรสุทธิใน 1Q68F อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (+2% QoQ แต่ -1% YoY)
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะ 1.) สินเชื่อโตขยายตัวต่ำเพียง 2% QoQ แต่ลดลง 3% YoY 2.) credit
cost เพิ่มขึ้นเป็น 1.85% (จาก 1.7% ใน 4Q67 และ 1.9% ใน 1Q67) 3.) ต้นทุนการระดมเงินไม่ลดลง เพราะ
ต้นทุนที่สูงจากหุ้นกู้ที่ออกในช่วงปลายปี 2567 และ ต้นปี 2568
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568F/2569F ลง 5%/6%, ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568F เป็น 31.00 บาท; แนะนำถือ
เราปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึงประมาณการ credit cost ที่เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 1.8% นอกจากนี้ ประมาณการกำไรปี 2568F/2569F ของเราที่ -7%/9% ยังสะท้อนถึงสมมติฐานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ 6%/12% และ ii) yield สินเชื่อที่ 18.2%/18.3% นอกจากนี้ เรายัง de-rate PE เป็น 10x ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2568F ใหม่ที่ 31 บาท (ลดลงจากเดิมที่ 39 บาท) โดยราคาเป้าหมายใหม่ของเราสะท้อนถึง share dilution ที่ประมาณ 9% จากการจ่ายหุ้นปันผลที่ 10:1 สำหรับปี FY2567
Risks
LOS เพิ่มขึ้น และ credit cost เพิ่มขึ้น, NPL เพิ่มขึ้น และ refinance หุ้นกู้ไม่ได้.







