วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TISCO ผลประกอบการ 1Q68: บริหารกำไรด้วยการตั้งสำรองฯ ต่ำกว่าคาด

กำไรสุทธิของ TISCO ใน 1Q68 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (-4% QoQ และ -5% YoY) สูงกว่าประมาณการของเรา และ consensus 2.6% โดยกำไรสุทธิในไตรมาสแรกคิดเป็น 24.9% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
กำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะค่าธรรมเนียมกองทุนลดลง (ค่าธรรมเนียมกองทุนสูงตามฤดูกาลใน 4Q67 อยู่ที่ประมาณ 71 ล้านบาท) ในขณะที่กำไรที่ลดลง YoY สะท้อนถึง credit cost ที่สูงขึ้น
รายได้ลดลงทั้งดอกเบี้ย (NII) และ รายได้มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII)
รายได้อ่อนแอตามคาด ทั้ง NII และ non-NII โดย NII ลดลง 2% QoQ และ YoY ตามสินเชื่อที่หดตัวลง -0.4% QoQ และ 2% YoY และ NIM ที่ลดลงเล็กน้อย สำหรับ non-NII รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง QoQ เพราะฐานที่สูงของรายได้ค่าธรรมเนียม incentive จากการบริหารสินทรัพย์ที่ 71 ล้านบาท แต่ยังเพิ่มขึ้น 3% YoY เพราะกำไรจากการค้าหลักทรัพย์ และ ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ wealth management
NPLs เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และ credit cost เพิ่มขึ้น
ตัวเลข NPL เพิ่มขึ้น 2% QoQ และ 5% YoY โดย NPL จากสินเชื่อ H/P ทรงตัว แต่ NPL จากสินเชื่อจำนำ
ทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 7% QoQ และ 17% YoY ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายสำรองฯ (Credit cost) เพิ่มขึ้นเป็น 66bps ใน 1Q68 (จาก 56bps ใน 4Q67 และ 47bps ใน 1Q67) ซึ่งเป็นไปตามเป้าของผู้บริหารที่จะเพิ่ม credit cost เป็น 1-1.2%
ลูกหนี้ประมาณ 2-6% ยื่นขอเข้าร่วมโครงการคุณสู้ เราช่วย
TISCO เริ่มกระบวนการเปิดรับลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ร่วมโครงการคุณสู้ เราช่วย ซึ่งคาดว่าจะมีมูลหนี้รวมประมาณ 1.3 หมื่นล้านเข้าเกณฑ์ของโครงการ ซึ่งในนี้ประมาณ 4.3 พันล้านบาท ได้ลงทะเบียนเข้าโครงการ และได้รับอนุมัติแล้ว 2.6 พันล้านบาท (สินเชื่อจำนำทะเบียน 55%, สินเชื่อ H/P 43% และสินเชื่อจดจำนอง 2%) เราคิดว่าโครงการนี้จะส่งฉุดให้ yield สินเชื่อลดลง แต่จะถูกชดเชยด้วย credit cost ที่ลดลงในไตรมาสต่อ ๆ ไป
คงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 98.0 บาท (PBV ที่ 1.8x)
เราแนะนำถือ TISCO ในฐานะที่เป็นหุ้นปันผล เพราะกำไรไม่เพิ่มในขณะที่ credit cost มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเราประเมินราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 98 บาท โดยใช้ PE ที่ 12x และ PBV ที่ 1.8x
Risks
NPLs เพิ่มขึ้น และ credit cost เพิ่มขึ้น, NIM ถูกกดดัน.