วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี PYLON ภาพอุตสาหกรรมเริ่มดี...Backlog สูงสุดใน 2 ปี

คงมุมมองบวกจาก Opportunity day ยืนยันภาพอุตสาหกรรมเสาเข็มเริ่มฟื้นตัว จากปริมาณงานทยอยเพิ่ม และการแข่งขันเริ่มลดลง
โดย Backlog สูงสุดรอบ 2 ปี และอาจทำ New high เกิน 1.6 พันลบ. จากยังมีงานประมูลที่โอกาสชนะสูง และแนวโน้มกำไรดีขึ้นเป็นขั้นบันได1Q-3Q25F คงกำไรปี 25F 94 ลบ. จาก 1 ลบ. ปีก่อน คง “Buy” จาก TP25F 2.6 บาท อิง P/BV 1.8 เท่า
Positive view from Opportunity day
- อุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น งานเพิ่มและแข่งลด : บริษัทมองบวกต่อภาพอุสาหกรรมเสาเข็มเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี จากฝั่ง Demand ที่โครงการใหญ่ทยอยออกมาทั้ง โครงการรัฐ โดยเฉพาะทางด่วนสายสีส้ม (3 พันลบ.) ซึ่งเราประเมินโครงการใช้ Supply เสาเข็มสูงราว 40% ของทั้งอุตสาหกรรม และงานเอกชน กลุ่ม Mixed use, data center ขณะที่ งานอสังหาฯยังเป็นเพียงทรงตัว ขณะที่ ฝั่ง Supply บริษัทเผยมี 1 ในผู้ประกอบการ Big4 ทยอยถอนตัวด้วย (เราคาดขนาดธุรกิจใกล้เคียงกับ PYLON และจากการศึกษาของเรา การถอนตัวของบริษัทนี้ สอดคล้องกับนโยบายบ.แม่ในต่างประเทศที่เน้นการ Turnaround และทยอยถอนตัวในประเทศที่ขาดทุน) ทำให้ภาพการแข่งขันดูผ่อนคลายด้วย
- Backlog PYLON สูงสุดใน 2 ปี : ตั้งแต่ต้นปี PYLON รับงานแล้ว 450 ลบ. (เวิ้งนครเกษม + งานเอกชน) และล่าสุดบริษัทเผยรับงานใหญ่เพิ่มเติมอีกราว 350 ลบ. (สายสีส้ม 2 สถานีและทางด่วนจตุโชติ) และทำให้ Backlog สูงสุดใน 2 ปีที่ 1.3 พันลบ. (และ YTD รับงานแล้ว 800 ลบ. คิดเป็น 57% ของประมาณการทั้งปี) รวมถึง มีโอกาสที่ Backlog จะทา New high เกิน 1.6 พันลบ. เนื่องจากมีโอกาสรับงานเพิ่มเติมช่วงต่อจากนี้ รวมถึง บริษัทมีแผนซื้อเครื่องจักรบางส่วนเพิ่มเติมเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และเป็นสัญญาณบวกต่อความมั่นใจในภาพอุตสาหกรรม ทั้งนี้ สอดคล้องกับ Backlog SEAFCO ที่สูงสุดใน 5 ปีจากรับงานสายสีส้มเป็นหลัก
- ล็อคราคา raw material แล้ว: โดยปกติแต่ละงานมีระยะเวลาสั้น 3-6 เดือนหรือสูงสุด 1 ปี รวมถึง บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแรง เป็น Net cash และมีเงินสด+สินทรัพย์สภาพคล่องสูง 400 ลบ. ทำให้บริษัทจัดการต้นทุนหลัก คือ ซีเมนต์และเหล็ก (60% ของต้นทุน) โดยการล็อคราคาล่วงหน้าหลังทำสัญญา
ความเห็นและคำแนะนำ
- เรามีมุมมอง “Positive” มองภาพอุตสาหกรรมเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว และการแข่งขันเริ่มต่ำลง ช่วยผลประกอบการทยอยฟื้นตัว โดยประเมินกำไรปี 2025F 94 ลบ. จากปี 2024 1 ลบ. โดยระยะสั้น แนวโน้ม 1Q25F-3Q25F จะพลิกมากำไร +y-y, +q-q ตลอด 3 ไตรมาส จากคาดการใช้เครื่องจักรมากขึ้นตั้งแต่ 1Q25 คาด 11-12 ชุด และเพิ่มเป็น 15 ชุดใน 2Q25F และมากกว่า 15 ชุดใน 3Q25F
- ราคาปัจจุบันปรับลงมาก ซื้อขาย P/BV 1.5 เท่า (-1.9SD) เป็นโซนต่ำในรอบ 10 ปี และ PER 15 เท่า (-0.5SD) แนะนำ “Buy” จาก TP25F 2.6 อิง P/BV 2.0 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ย – 1.0SD ใกล้เคียงรอบปีที่ผลประกอบการตกต่ำ
- ทั้งนี้ บริษัทประกาศปันผล 2024 0.04 บาท/หุ้น (Yield 2.2%, XD 18 มี.ค.,จ่าย 23 พ.ค.)