Daily SET50 Index Futures : บล.เคจีไอฯ แกว่งลง รมว.พาณิชย์สหรัฐจะเจรจากับแคนาดาเม็กซิโก

แนวโน้มระยะกลาง

ระยะกลางคาด S50H25 แกว่งตัวลงแต่ Downside จำกัด ระยะสั้นเป็นลบมากขึ้น หลังจาก S50H25 ไม่สามารถยืนได้เหนือ 753 ประเมินแนวรับ 742/730*/720 และแนวต้าน 753/763/775 หากยืนได้เหนือ 742 อาจแกว่งตัวขึ้นไปแนวต้านที่ 753/763 หากยืนไม่ได้เหนือ 742 อาจแกว่งตัวลงไปแนวรับ 730/720

กลยุทธ์ระยะกลาง (สัปดาห์)

แนะนำเปิด Long สัญญา S50H25 ที่แนวรับ 730 และปิดสถานะที่แนวต้าน 742/753 โดยให้จุด Stop loss at 725

สำหรับคนที่ได้เปิด Long สัญญา S50H25 ที่แนวรับ 753 เมื่อจันทร์ที่ผ่านมา อาจจะได้ปิดสถานะที่ 743.5

แนวโน้ม SET50 ฟิวเจอร์สระยะสั้น (ระหว่างวัน)

วานนี้ S50H25 เคลื่อนไหวแกว่งตัวลง โดยเปิดลบทันทีที่ 743.5 จากนั้นเด้งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 756.1 สลับแกว่งตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ 738.6 และมาปิดที่ 742.3 โดย Futures ลงแรงกว่าดัชนี ส่งผลให้ Basis ระหว่าง S50H25 และ SET50 สู่ -3.31 จุด

ประเมินสัญญา S50H25 อาจแกว่งตัวลง หากยืนได้เหนือ 738 อาจสลับเด้งฟื้นขึ้นไปแนวต้าน 743/748

กลยุทธ์ระยะสั้น(ระหว่างวัน)**

แนะนำเปิด Long ที่แนวรับ 738 และแนะนำปิดสถานะที่แนวต้าน 743/748 โดยให้จุด Stop loss ที่ 733

สำหรับคนที่ได้เปิด Long ที่แนวรับ 745 เมื่อวานนี้ อาจจะได้ปิดสถานะที่ 755 หรือหากเปิดอีกครั้งในช่วงบ่ายที่ 745 อาจจะได้ปิดสถานะที่ 740

 

 

 

ปัจจัยสำคัญ-

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50

วานนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 670 จุด (-1.55%) ที่ 42,520 จุด จากความกังวลต่อข่าวการเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ในอัตรา 25% และจากจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 20% มีผลบังคับใช้วานนี้ ขณะที่แคนาดาประกาศตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 25% มีผลบังคับวานนี้ และจีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าบางรายการเพิ่มอีก 10%-15% มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. อย่างไรก็ตามรมว.พาณิชย์สหรัฐได้ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่าสหรัฐอาจจะเจรจากับแคนาดาและเม็กซิโกเพื่อที่จะประนีประนอมเกี่ยวกับภาษีที่เรียกเก็บแคนาดาและเม็กซิโก

ด้านทิศทางราคาน้ำมัน WTI เดือนเม.ย.ปิดลบ 0.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-0.16%) มาปิดที่ 68.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากนักลงทุนที่กังวลต่อข่าวการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างแคนาดา เม็กซิโก จีนและสหรัฐ รวมทั้งสะท้อนข่าวลบต่อเนื่องหลังจากโอเปคพลัสประกาศว่าทางกลุ่มได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ 2.2 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนเม.ย. ตามแผนการเดิม

ปัจจัยที่ให้ติดตามในระยะสั้น

คืนนี้ติดตาม S&P Global และ ISM รายงาน PMI ภาคบริการสหรัฐเดือนก.พ. ทั้งนี้ตลาดคาด 49.7 และ 52.6 รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐประจำสัปดาห์ และ ADP รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.พ. ทั้งนี้ตลาดคาด 140,000 รายและลดลงราว 290,000 บาร์เรล นอกจากนี้ในคืนวันศุกร์นักลงทุนรอติดตามปัจจัยสำคัญ ได้แก่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานสหรัฐเดือนก.พ.