วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก DELTA กดตลาด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก DELTA กดตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยเปิดตลาดดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก จากแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ก่อนจะอ่อนตัวลงจากแรงขาย นำโดยหุ้น AOT จากความกังวลผลประกอบการ 1Q68 ต่ำคาด

อีกทั้งมีแรงขายเพิ่มเติมในหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ DELTA SCB และ ADVANC เป็นปัจจัยกดดันดัชนี อย่างไรก็ตามนักลงทุนนักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,472.10 จุด -12.01 จุด -0.94% มูลค่าการซื้อขาย 50,036 ลบ. Program Trading +983.54 ลบ. ต่างชาติ +824.32 ลบ. TFEX -4,411 สัญญา ตราสารหนี้ -647.52 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในไตรมาส 1/68
+ ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขายินดีอย่างยิ่งหากรัสเซียกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่ม G7 อีกครั้ง และกล่าวว่าการขับไล่รัสเซียออกจากกลุ่มในอดีตนั้นถือเป็นความผิดพลาด
+ รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขประมาณการเบื้องต้นของ GDP 4Q67 โดยระบุว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของญี่ปุ่น ขยายตัว 2.8%YoY ซึ่งเป็นการขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 1%
+ ตลท. กล่าวถึงโครงการ Jump+ ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นตลาดระยะกลาง โดยจะมีการเสนอรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เสนอยกเว้นภาษีกำไรส่วนเพิ่มที่เกิดขึ้นระหว่างร่วมโครงการหากสามารถเติบโตได้ตามแผน รวมทั้งไม่เก็บภาษีย้อนหลังกับบริษัทนอกตลาดที่ถูกควบรวมหรือซื้อกิจการกับบริษัทในโครงการ

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 165.35 จุด หรือ -0.37% แต่การปรับตัวขึ้นของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) หนุนดัชนี Nasdaq ปิดบวก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ แต่ยังไม่ได้กำหนดภาษีใหม่เพิ่มเติม

- สัญญา WTI ลดลง 55 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 70.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งอาจช่วยบรรเทาปัญหาการชะงักงันของอุปทานน้ำมันโลกด้วยการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงได้ถูกจำกัด เนื่องจากสหรัฐฯ ยังไม่มีการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในทันที
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 0.3%MoM ในเดือนม.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
- ตลท. สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่ม นักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-14 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 9,350.06 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 662.53 ล้านบาท นักลงทุน ต่างประเทศขายสุทธิ 9,947.33 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 18,634.86 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลง จากแรงกดดันของหุ้น DELTA หลังประกาศงบออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนี 1,260-1,280 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC, PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

AU "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม 13.50 บาท) มีอัพไซต์ 60%
แนวโน้มกำไร 4Q67 อาจต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม แต่คงมองบวกต่อแนวโน้มปี 68

•คาดแนวโน้มกำไร 4Q67 คงเติบโตต่อเนื่อง YoY แต่อาจทรงตัว QoQ (จากเดิมคาดโต QoQ) โดยแม้เข้าสู่ High Season ของธุรกิจ แต่คาดจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในโซนภาคเหนือและภาคใต้ อย่างไรก็ตาม คาดยังคงเติบโต YoY จากการขยายสาขาใหม่ต่อเนื่องสู่ 63 แห่ง (+3 แห่ง YoY +2 แห่ง QoQ) รวมทั้งการเริ่มวางขายสินค้าใน 7-Eleven เมื่อช่วง ก.ค. 67 โดยเดิมเราประมาณการกำไรปี 67 ราว 296 ลบ. +66%YoY (9M67 คิดเป็น 71%) ซึ่งอาจมี Downside Risk จากประมาณการดังกล่าว (คาดประกาศงบ 4Q67 วันที่ 24 ก.พ.68)

ความเห็น เรามองเป็นกลางต่อแนวโน้ม 4Q67 ที่อาจต่ำกว่าที่คาดไว้เดิม แต่ยังคงมองบวกต่อแนวโน้มปี 68 ที่คาดจะเติบโตต่อเนื่อง โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโตราว 25-30% Aggressive กว่าที่เราคาดว่าจะเติบโตราว 10-15% ซึ่งคาดจะเติบโตดีตั้งแต่ 1Q68 เป็นต้นไป โดยมีเหตุผลสนับสนุนคือ 1) ผลิตภัณฑ์ใหม่ "ขนมปังคัสตาร์ดไข่เค็มหน้าฝอยทอง" ที่เพิ่งออกมีกระแสดี 2) เพิ่งรองรับสิทธิ์ Easy E-Receipt ได้เป็นปีแรก 3) โรงงานสำหรับผลิตสินค้าเพื่อส่งร้าน 7-Eleven เสร็จแล้ว และยังมีแผน OEM หรือร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อส่งสินค้าเข้าสู่ร้าน 7-Eleven เพิ่มเติม 4) ขยายสาขา After You อีก 8-10 แห่ง และ 5) แผนขยาย Franchise ไปยังต่างประเทศอีก 2 แห่ง ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรปี 68 ราว 332 ลบ. +15%YoY และราคาเหมาะสม 13.50 บาท มีอัพไซต์ 60% แนะนำ "ซื้อ"

หุ้นมีข่าว

(+) DITTO (Bloomberg Consensus - บาท) เป้ารายได้ปี 2568 โต 20-30% เดินหน้ารุกตลาดดิจิทัล-เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ มั่นใจมีโอกาสรับงานสวนสัตว์ระยะที่ 2 ต่อ หลังครม. เพิ่งอนุมัติงบ ด้านเสนอขายโทเคนป่าชายเลน ยื่นไฟลิ่งแล้ว 40 ล้านโทเคน มูลค่าไม่เกิน 480 ล้านบาท หวังได้รับอนุมัติไตรมาส 1/2568 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MEDEZE (ราคาเหมาะสม 11.40 บาท) เปิดตัวธนาคารเซลล์แช่แข็งรากผมแห่งแรกในเอเชีย รับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 แย้มมาร์จิ้นสูงกว่า 35% คาดปีแรก 500 เคส รับรายได้ 150 ล้านบาท ย้ำเป้ารายได้รวมปีนี้เพิ่มขึ้น 25-30% พร้อมเปิดรับพันธมิตรต่อเนื่อง ทั้ง B2B-คลินิกบริการ ดันเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AOT (Bloomberg Consensus 66.50 บาท) คาดผลงานโค้งสองยังโตแกร่ง หนุนจากความต้องการเดินทางที่ยังทรงตัวสูงช่วงปลายตารางการบินฤดูหนาว พร้อมเปิดสถิติตารางการบินฤดูร้อนโชว์เที่ยวบินโต 27.1% YoY ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 30.7% YoY แจง "คิงเพาเวอร์" ค้างจ่ายค่าตอบแทนไม่กระทบรายได้ เปิดช่องเจรจาลดค่าปรับล่าช้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PLANB (Bloomberg Consensus 9.00 บาท) ผนึกกำลังกับ VGI เพื่อขยายเครือข่ายและเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ OOH โดย VGI แต่งตั้งให้ PLANB เป็นผู้แทนขายสื่อโฆษณา บริหารการตลาด และจัดการสื่อทั้งหมดในเครือ VGI อีกทั้งบอร์ดบริษัทได้อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี จำกัด หรือ Hello LED เสริมฐานธุรกิจแกร่ง (ที่มา ข่าวหุ้น)