วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณค่อนข้างผสมผสาน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณค่อนข้างผสมผสาน

การที่เฟดไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย เป็นลบเล็กน้อย แต่อยู่ในคาดการณ์ของนักลงทุนแล้ว คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติคงดอกเบี้ยในช่วง 4.25-4.50% ทั้งนี้นักลงทุนมองสัญญาณดังกล่าวเป็นลบเล็กน้อย

เนื่องจาก 1) ความเห็นคงดอกเบี้ยเป็นมติเอกฉันท์ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ยอีกในการประชุม 2 ครั้งหน้า 2) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ให้ความเห็นว่าเฟดไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย โดยให้น้ำหนักกับการรอดูความคืบหน้าของเงินเฟ้อ และรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ เพื่อประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม // โดยรวมการลดดอกเบี้ยที่ช้าลงเป็นลบเล็กน้อยต่อบรรยากาศลงทุน แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในคาดการณ์ของนักลงทุนและตลาดอยู่แล้ว จึงประเมินผลกระทบค่อนข้างจำกัด

กลุ่มเทคโนโลยีโดยรวมรายงานผลประกอบการดี แต่ติดตามมาตรการเพิ่มเติมในการจำกัดการขายชิปให้จีน: ผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่เมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ทั้ง Microsoft (EPS $3.23 vs คาดการณ์ $3.13), META (EPS $8.02 vs คาดการณ์ $6.73), IBM (EPS $3.92 vs คาดการณ์ $3.80) ยกเว้น TSLA (EPS $0.73 vs คาดการณ์ $0.76) จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง และต้นทุนการผลิตรวมถึง R&D ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามดัชนีหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมปรับลดลงจากการส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ยของเฟด และข่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณามาตรการเพิ่มการจำกัดการขายชิปของ NVIDIA ให้จีน ซึ่งรวมถึงชิปรุ่นที่ออกแบบเพื่อให้เป็นไปตามข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ แต่ยังสามารถพัฒนาและรันซอฟต์แวร์ AI ได้ (ชิป H20)  

อาหาร งบดี // ไฟฟ้า/ไฟแนนซ์ ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรลง: กลุ่มค้าปลีก - ผลดีจาก Easy e-receipt (16 ม.ค.-28 ก.พ.) และ 10,000 บาท เฟส 2 (27 ม.ค.) บวกต่อ CPALL, CPAXT, TNP, MEB, HMPRO, COM7, ADVICE, SYNEX, SIS, CRC, CPN  // กลุ่มอาหาร – คาดรายงานกำไรไตรมาส 4/67 ดีขึ้นต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดปรับเพิ่มประมาณการและราคาเหมาะสมขึ้น เป็นปัจจัยหนุนต่อ

 

 

ราคาหุ้นในช่วงต่อไป โดยเราชอบทั้ง CBG, OSP, CPF, BTG, TFG // กลุ่มไฟฟ้าและไฟแนนซ์ – คาดได้ผลบวกจากผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง บวกต่อ GULF, BGRIM, GPSC, EGCO, RATCH, MTC, TIDLOR, SAWAD

ภาพรวมกลยุทธ์  เก็งกำไรรายตัว ระหว่างรอดัชนีสร้างฐาน 1,335-1,365 จุด ยังชอบกลุ่มผลประกอบการดี ใน 4Q67-1Q68 มีความน่าสนใจ โดยเราชอบ หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, การแพทย์, สื่อสาร, ค้าปลีก และอาหาร (เครื่องดื่มและเนื้อสัตว์) กลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่และหุ้นปันผลสูงเริ่มกลับมาน่าสนใจ 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)
•    CPALL* (61): ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายสาขาเดิม(SSSG) เป็นบวก ซึ่งดีกว่ากลุ่มค้าปลีกอื่น ตัดขาดทุน 55 บาท
•    BBGI (5.50) : ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในปี 2568 จากน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF) ตัดขาดทุน 4.40 บาท
•    EGCO* (130): กลุ่มโรงไฟฟน่าน่าสนใจจากผลตอบแทนปันผลและ bond yield ที่เริ่มปรับลดลง ขณะที่ซื้อขายเพียง 7x PER และ 0.58x PBV ตัดขาดทุน 109 บาท  
•    BTG (21) : คาดกำไร 4Q67F เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy จากต้นทุนการผลิตที่ปรับลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรยังปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ตัดขาดทุน 17.50 บาท

ประเด็นที่น่าสนใจ 
-    เฟดมีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ตามคาด
-    Microsoft สืบหาต้นตอ สงสัยกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ DeepSeek ขโมยข้อมูล OpenAI
-    กสทช. ไฟเขียวเกณฑ์คลื่นความถี่ทางการบินใหม่ ยังไม่รวมโดรน
-    บอร์ดบีโอไอไฟเขียว TikTok ลงทุน Data Hosting 1.26 แสนล้าน
-    SCC แจ้งงบปี 67 กำไรหดวูบ 76% รับผลกระทบปิโตรฯเวียดนาม วางงบลงทุนปีนี้ 3-3.5 หมื่นลบ.
-    MSFT รายงานรายได้และ EPS ใน 2QFY25 สูงกว่าที่ตลาดคาด/ META รายงานรายได้และ EPS ใน 4Q24 สูงกว่าที่ตลาดคาด/ TSLA รายงานรายได้และ EPS ใน 4Q24 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 

 

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

30 ม.ค. – ECB Interest rate decision, US GDP, Apple earnings
31 ม.ค. – US PCE Price, TH Industrial Production, Retail Sales

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณค่อนข้างผสมผสาน