กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ราคาหุ้นสะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจไปมาก ตลาดมีโอกาสฟื้นตัว

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ราคาหุ้นสะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจไปมาก ตลาดมีโอกาสฟื้นตัว

ตลาดหุ้นไทยน่าจะฟื้นตัว หลังประเด็นสงครามการค้า 2.0 ชัดเจน ในสัปดาห์ที่แล้ว (13-17 มกราคม) ตลาดหุ้นไทยยังลงต่อแบบ sideways down ซึ่งเป็นไปตามมุมมองของเรา เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้

ข้อแรก นักลงทุนยังรอดูเหตุการณ์ที่จะมีความสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้แก่ การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี Donald Trump ในวันที่ 20 มกราคม ทั้งนี้ ดังที่เราเคยระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าแนวโน้มสงครามการค้ายังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และ ความไม่แน่นอนดังกล่าวทำให้ตลาดไม่ได้ตอบรับเชิงบวกกับตัวเลข GDP 4Q67 ของจีนที่ขยายตัวดีที่ 5.4% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้

ข้อที่สอง ถึงแม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะย่อลงมาแรง และ ช่วยหนุนหุ้นที่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยบางตัว แต่ส่งผลลบต่อธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งวิ่งขึ้นมาในสัปดาห์ก่อนหน้าเพราะได้แรงหนุนจากธีมการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

สำหรับในสัปดาห์นี้ (20-24 มกราคม) เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะดีดตัวขึ้นได้ เพราะเหตุผลสนับสนุนดังต่อไปนี้

ข้อแรก เรายังคงมองว่าสงครามการค้าของ Trump รอบนี้จะไม่รุนแรงนัก โดยรัฐบาลของ Trump น่าจะดำเนินนโยบายการเก็บภาษีสินค้าจีนแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันไม่ให้เงินเฟ้อ และ อัตราการขยายตัวของ GDP สหรัฐได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ เรายังคิดว่าตลาดการเงินน่าจะสะท้อนความคาดหมายว่าจะมีการเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 10% จากปัจจุบันที่ 20% ไปมากแล้ว

ข้อที่สอง นักลงทุนน่าจะยังเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนถ้าหากผลประกอบการของธนาคารใหญ่ใน 4Q67 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ โดยในสัปดาห์ที่แล้ว ภาวะตลาดของหุ้นกลุ่มธนาคารแผ่วลง เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง และ ตลาดเป็นกังวลมากขึ้นกับแนวโน้ม GDP ปี 2568 ของไทย

 

ติดตามนโยบายของ Donald Trump, การตัดสินอัตราดอกเบี้ย LPR ของ PBoC และ ผลประกอบการ 4Q67 ของธนาคารไทย

ปัจจัยต่างประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี Donald Trump (ในวันที่ 20 มกราคม) ซึ่งหลังจากนี้น่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในส่วนของนโยบายภาษีสหรัฐ ii) ผลการประชุมของ PBoC เพื่อตัดสินอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate (LPR) ของจีนในวันที่ 20 มกราคม ซึ่ง consensus คาดว่า PBoC น่าจะคง LPRs หลักเอาไว้เท่าเดิม และ iii) ผลการประชุมเพื่อพิจารณานโยบายการเงินของ BoJ ในวันที่ 24 มกราคม ซึ่งคาดว่า BoJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักอีก 25bps เป็น 0.50%

ปัจจัยในประเทศ: นักลงทุนควรติดตาม i) ผลประกอบการ 4Q67 ของธนาคารไทย ซึ่งคาดว่าจะออกมาครบภายในวันอังคาร ii) กระแสข่าวเกี่ยวกับแผนลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาล ซึ่งดูเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มผู้บริโภค และ อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ แต่ดูเป็นลบกับกลุ่มโรงไฟฟ้า

เน้นลงทุนหุ้นธีมหลัก เช่น กลุ่มค้าปลีก และเก็งกำไรหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจประเทศจีน

เราแนะนำแนวทางลงทุนสองแนวในสัปดาห์นี้ โดยแนวทางแรก นักลงทุนน่าจะเกาะตามธีมหลักของเราอย่างเช่น กลุ่มผู้บริโภค ซึ่งจะได้อานิสงส์จากสองสามปัจจัยสนับสนุน ซึ่งได้แก่ มาตรการ Easy e-Receipt, ช่วง high season ของผลประกอบการ 4Q67 และ ต้นทุนพลังงานที่มีแววจะลดลง เรายังคงชอบ CPAXT, CRC* และ COM7* นอกจากนี้ ยังมีโอกาสสูงที่สงครามการค้า 2.0 จะไม่รุนแรง ดังนั้น หุ้นกลุ่มที่โยงกับจีนอย่างเช่น IVL* และ PTTGC* จึงมีโอกาสจะฟื้นตัวขึ้นได้ในสัปดาห์นี้