วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี GPSC เดิมพันกับการเติบโตของ Avaada
![วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี GPSC เดิมพันกับการเติบโตของ Avaada](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/05/D1YF750XEd2EKeZKw4Ir.webp?x-image-process=style/LG)
ข้อมูลโดยรวมที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่แล้วอยู่ในเชิงกลาง ๆ โดยสัดส่วนของโครงการพลังงานหมุนเวียนน่าจะเพิ่มขึ้นจาก 37% ในเดือนเมษายน 2024 เป็น 65% ในปี 2026
ซึ่งสาเหตุสำคัญจะมาจากการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของโครงการ Avaada ซึ่งจะทำให้ equity MW ของ GPSC รวมเพิ่มขึ้นจาก 6.8GWe เป็น 10.5GWe อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองแบบระมัดระวังต่อความเสี่ยงที่จะต้องเพิ่มทุนในโครงการ Avaada เพราะเรามองว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะไม่เพียงพอสำหรับการขยายโครงการ เรายังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 46.00 บาท
กำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q24 จะเพิ่มขึ้น qoq เนื่องจากต้นทุนก๊าซลดลง
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q24 จะเพิ่มขึ้น qoq เนื่องจาก i) margin ของไฟฟ้าที่ขายให้ IU เพิ่มขึ้นจากการที่ต้นทุนก๊าซลดลงประมาณ 320-330 บาท/mmbtu ใน 2Q24 จาก 340 บาท/mmbtu ใน 1Q24 เพราะราคาก๊าซ single pool gas ii)
weighting factor ของค่าความพร้อมจ่ายของ IPPs สูงขึ้นในช่วง peak ตามฤดูกาล iii) การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการ Glw SPP2 replacement (100 MWe) และ IRPC-CP phase 3 (36 MWe)
Avaada เร่งขยายกำลังการผลิตเป็น 13.9GW ภายในปี 2026
กำลังการผลิต (operating capacity) ในปัจจุบันอยู่ที่ 1.9GWe โดย Avaada จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 9.5GW ณ ปี 2023 เป็น 13.9GW ในปี 2026 ซึ่งจะทำให้ equity capacity ของ GPSC เพิ่มขึ้นจาก 6.8GWe ในปัจจุบัน เป็น 10.4GWe ในปี 2026 อย่างไรก็ตาม เรายังมองแบบระมัดระวังกับความเสี่ยงที่จะต้องเพิ่มทุนให้กับ AEPL เพราะโครงการที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้มากพอสำหรับโครงการที่อยู่ใน pipelines ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าจะมีการเปิดประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศรอบสอง (3.7GW) ใน 4Q24 หรือ ต้นปี 2025 แต่เนื่องจากบริษัทประมูลได้โครงการ solar farm มาเพียง 8MWe จากทั้งหมด 5.2GWe ในการประมูลรอบแรก ดังนั้น เราจึงมองว่าบริษัทมีโอกาสชนะประมูลโครงการไม่มากนักในการประมูลรอบสอง
คงคำแนะนำถือ และ ประเมินราคเป้าหมายปี 2024 ที่ 46.00 บาท
เราประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF โดยใช้สมมติฐาน beta ที่ 1.2, risk free rate ที่ 3.5% และ market risk premium ที่ 8% เราคิดว่าต้นทุนก๊าซใน 2H24 น่าจะยืนอยู่ที่ระดับนี้ หรือ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการที่ราคา spot JKM LNG ยืนเหนือระดับ
US$12/mmbtu