ธปท.ผวา ‘การผลิต’ หดตัวยาว “อุตสาหกรรม” เผชิญปัญหาโครงสร้าง-ความสามารถการแข่งขันลด

ธปท.ผวา ‘การผลิต’ หดตัวยาว “อุตสาหกรรม” เผชิญปัญหาโครงสร้าง-ความสามารถการแข่งขันลด

ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทย พ.ย.ดีขึ้นรับแรงประคองจาก “ภาคบริการ-ท่องเที่ยว” รวมถึงส่งออก ห่วงภาคการผลิตอุตสาหกรรม หดตัวต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยชั่วคราวและปัญหาเชิงโครงสร้าง สะท้อนผลผลิตลดลงหลายหมวด ขณะที่ “เงินบาทแข็งค่า” และ “การแข่งขันจากสินค้านำเข้า” ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามใกล้ชิดระยะข้างหน้า

KEY

POINTS

  • ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของไทยหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ปรับตัวลดลงในหลายหมวดสำคัญ
  • ธปท.ชี้เป็นผลกระทบจากทั้งปัจจัยชั่วคราวและปัญหาเชิงโครงสร้าง
  • สาเหตุหลักของการหดตัวมาจากปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • การเผชิญกับการแข่งขันจากสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น
  • ห่วงหดตัวที่ยาวนาน จากปัญหาโครงสร้าง

ธปท.ผวา ‘การผลิต’ หดตัวยาว “อุตสาหกรรม” เผชิญปัญหาโครงสร้าง-ความสามารถการแข่งขันลด เศรษฐกิจไทยช่วงปลายปี 2568 เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากฝั่งอุปสงค์ โดยมีแรงหนุนสำคัญจากการส่งออกสินค้าและท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องแต่ฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง เพราะภาคการผลิตอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ลดลงหลายหมวด ท่ามกลางปัจจัยชั่วคราวและปัญหาเชิงโครงสร้าง 

ขณะที่ค่าเงินบาทและการแข่งขันจากสินค้านำเข้ายังคงเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะข้างหน้า

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงต่อเนื่อง ในระยะสั้นการหดตัวของการผลิตได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวหลายประการ

อาทิ การปิดซ่อมบำรุงโรงงานและโรงกลั่นตามแผน การหยุดการผลิตชั่วคราวของโรงงานบางแห่งจากสถานการณ์น้ำท่วม

ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย.2568 ลดลงหลายหมวด โดยดัชนี MPI ลดลงจากเดือนก่อน 3.7% ลดลงเกือบทุกหมวดหลัก ได้แก่ หมวดปิโตรเลียม จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามแผน ซึ่งจะกลับมาผลิตได้ในเดือน ธ.ค.

ส่วนหมวดยานยนต์ จากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะลดลงตามอุปสงค์ในและต่างประเทศ ขณะที่หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า จากการผลิตเครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ลดลง รวมถึงหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ลดลงเล็กน้อย จากการหยุดผลิตชั่วคราวของโรงงานช่วงน้ำท่วมภาคใต้

สำหรับภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงมีทั้งปัจจัยชั่วคราว เช่น การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น การหยุดโรงงานชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วม และการปรับลดการผลิตสินค้าเทคโนโลยี หลังจากเร่งผลิตไปแล้วช่วงก่อนหน้า ขณะที่ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลงจากข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งได้เร่งออกสู่ตลาดไปมากแล้วในเดือนก่อน

ดังนั้น การลดลงของการผลิตภาคอุตสาหกรรมมาจากทั้งปัจจัยชั่วคราวจากการเร่งผลิตไปช่วงก่อนหน้า แม้การส่งออกบางหมวดขยายตัวได้แต่การผลิตในประเทศต้องหยุดชะงักบางช่วงทำให้ภาพรวมการผลิตยังอ่อนแรง

แต่อย่างไรก็ตาม การหดตัวของภาคการผลิตไม่ได้เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอุปสงค์ที่ค่อย ๆ ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา และความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การผลิตในหลายหมวดปรับลดลงต่อเนื่องตลอดปี
นอกจากนี้ ภาคการผลิตบางกลุ่มยังได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของสินค้านำเข้า หรือภาวะ import flooding ซึ่งกดดันการจ้างงานในบางอุตสาหกรรม และซ้ำเติมการชะลอตัวของภาคการผลิตโดยรวม

ภาพดังกล่าวเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะต่อไป โดยเน้นการช่วยให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี สามารถปรับโครงสร้างได้ ลดภาระ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพื่อรองรับการฟื้นตัวของภาคการผลิตในอนาคต

  • ศก.ไทยได้รับแรงส่ง “บริการ-ท่องเที่ยว”

หากดูภาพเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งสำคัญจากภาคบริการ โดยเฉพาะกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีชี้นำภาคการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้น ทั้งปริมาณการค้นหาการท่องเที่ยวไทยของชาวต่างชาติ และความจุที่นั่งเที่ยวบินซึ่งแม้จะชะลอลงบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับสูง
ทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกับรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายต่อทริป

โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ซึ่งยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อกิจกรรมในภาคบริการ เช่น โรงแรม ภัตตาคาร การค้า และการขนส่ง แม้ในระยะถัดไป ภาคท่องเที่ยวอาจเริ่มเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลในอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้แรงส่งชะลอลงบ้าง

ด้านภาคต่างประเทศ ดัชนีชี้นำการส่งออกสินค้าเริ่มสะท้อนสัญญาณดีขึ้นจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) หลายประเทศทั้งสหรัฐ ยุโรปและอาเซียน ดีขึ้นตามความต้องการสินค้าช่วงปลายปี ขณะที่จีนเริ่มเห็นสัญญาณชะลอลงจึงต้องติดตามใกล้ชิด

สำหรับอุปสงค์ในประเทศ การบริโภคภาคเอกชนมีปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐ และการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลในเดือน ธ.ค.อาจเห็นภาพการใช้จ่ายชัดเจนขึ้น การบริโภคเผชิญแรงกดดันจากภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง รายได้และการจ้างงานมีความไม่แน่นอน รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม

ขณะที่การลงทุนเอกชนยังขยายตัว โดยเฉพาะหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ สอดคล้องความต้องการบางอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์และความต้องการที่เกี่ยวข้องกับดาต้าเซนเตอร์

ทั้งนี้ ความเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามใกล้ชิด คือ การฟื้นตัวของภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่หดตัวต่อเนื่องจากปัจจัยชั่วคราวและปัจจัยเชิงโครงสร้าง นอกจากผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานและน้ำท่วมแล้ว ยังมีปัญหาอุปสงค์ที่ทยอยชะลอลง รวมถึงความสามารถการแข่งขันที่ลดลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ทำให้การผลิตหลายหมวดลดลงต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมา

  • ธปท.เกาะติด “เงินบาท” ใกล้ชิด

อีกหนึ่งประเด็นความเสี่ยง คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าปัจจัยพื้นฐานบางช่วงจากปัจจัยภายนอก เช่น ทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐที่ผ่อนคลาย และปัจจัยเฉพาะของไทย อาทิ เงินทุนไหลเข้าตลาดพันธบัตร รายรับจากการท่องเที่ยว และราคาทองคำที่อยู่ระดับสูง ซึ่งอาจกระทบความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและภาคการส่งออก

นอกจากนี้ ต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมต่อการฟื้นตัวของธุรกิจบางพื้นที่ รวมถึงความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา  และความเสี่ยงจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ ซึ่งแม้ปัจจุบันผลกระทบการส่งออกรวมยังไม่เด่นชัด แต่บางหมวดโดยเฉพาะสินค้าเกษตรหดตัวต่อเนื่อง

  • เศรษฐกิจ พ.ย.ดีขึ้นจากส่งออก-ท่องเที่ยว

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.2568 ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักมาจากฝั่งอุปสงค์ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าและรายรับจากการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามฝั่งอุปทานยังลดลง โดยเฉพาะภาคการผลิตซึ่งได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย

รวมทั้งหากพิจารณาเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจภาพรวมจะเห็นอุปสงค์มีทิศทางดีขึ้นชัดเจน การส่งออกสินค้าหลายหมวดเพิ่มขึ้น ขณะที่รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัว โดยหลักมาจากการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงขึ้น แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสัดส่วนนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเพิ่มขึ้น

การส่งออกสินค้าและรายรับจากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมภาคบริการปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว การค้าและการขนส่ง ขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นจากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นสำคัญ

ส่วนการบริโภคภาคเอกชนลดลงเล็กน้อยตามการใช้พลังงาน ทั้งการใช้น้ำมันและไฟฟ้า แม้การบริโภคสินค้าอื่นยังขยายตัวได้

ทั้งนี้ การส่งออกเดือน พ.ย.2568 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2% โดยเป็นการขยายตัวหลายหมวดสำคัญ ได้แก่ หมวดเครื่องประดับ โดยเฉพาะการส่งออกไปอินเดีย หมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากการส่งออกอุปกรณ์โทรคมนาคมไปสหรัฐ และคอมพิวเตอร์ไปจีน ซึ่งสอดคล้องอุปสงค์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หมวดเหล็กและโลหะจากการส่งออกอะลูมิเนียมและทองแดงไปจีน

อย่างไรก็ตาม มีบางหมวดที่การส่งออกลดลง ได้แก่ หมวดเกษตรแปรรูป จากการส่งออกน้ำมันปาล์มไปอินเดียลดลง หลังจากเร่งส่งออกไปในช่วงก่อน หมวดยานยนต์จากการส่งออกรถกระบะไปตะวันออกกลาง อาเซียนและเม็กซิโก ที่อุปสงค์ชะลอลง

สำหรับภาพรวมผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐยังไม่เห็นชัดเจนมากนัก การส่งออกสินค้าที่ถูกจัดเก็บภาษีแบบ Reciprocal Tariffs ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น ยกเว้นสินค้าเกษตรที่ลดลงต่อเนื่องและต้องติดตามในระยะถัดไป

  • ท่องเที่ยวไฮซีซันพุ่งดันเศรษฐกิจ

สำหรับเครื่องชี้ภาคบริการเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.5% สอดคล้องกิจกรรมการท่องเที่ยวและการค้า โดยธุรกิจโรงแรมและภัตตาคารปรับเพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งรับแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ เช่น เที่ยวดีมีคืนและคนละครึ่งพลัส

โดยธุรกิจขนส่งผู้โดยสารปรับเพิ่มขึ้น จากการขยายเส้นทางบินของสายการบินในประเทศ ขณะที่ภาคการค้าปรับดีขึ้นตามการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค และกิจกรรมขนส่งสินค้า

ส่วนรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 5.3% จากการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงขึ้นของนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ซึ่งชดเชยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ที่ลดลง 

ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 2.9 ล้านคน ลดลงเล็กน้อยจากนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้และมาเลเซีย โดยรับผลจากการเร่งเดินทางในเดือนก่อน และข้อจำกัดจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 21 ธ.ค.มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 31.8 ล้านคน
การบริโภคภาคเอกชนลดลง

ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนใน พ.ย.ลดลง 0.3% จากหมวดสินค้าไม่คงทน โดยเฉพาะยอดจำหน่ายน้ำมันและการใช้ไฟฟ้า แม้ว่ายอดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคยังเพิ่มขึ้นจากมาตรการคนละครึ่งพลัส ขณะที่หมวดสินค้าคงทนลดลง จากยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งคาดว่าผู้บริโภครอโปรโมชั่นปลายปี

ทั้งนี้หากดูด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ยังถูกกดดันจากภาระหนี้ รายได้ การจ้างงานที่ไม่แน่นอน สถานการณ์น้ำท่วม และความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา

โดยการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.3% จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ขณะที่การลงทุนด้านยานพาหนะและการก่อสร้างปรับลดลง ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐไม่รวมเงินโอน ขยายตัวจากรายจ่ายลงทุน ทั้งของรัฐบาลกลางและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ -0.49 ติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน จากเงินเฟ้ออาหารสดที่ติดลบน้อยลง ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.66% ใกล้เคียงเดือนก่อน ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลลดลงเหลือ 0.6 พันล้านดอลลาร์ จากดุลการค้าและดุลบริการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะรายรับจากการท่องเที่ยว