วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CHG อยู่ในช่วงฟื้นตัว
ทางบล.เคจีไอ ได้เข้าร่วมประชุมชี้แจงงบ 4Q66 ของ CHG และเยี่ยมชมศูนย์การแพทย์จุฬารัตน์ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม โดยมีประเด็นที่น่าสนใจทางธุรกิจดังนี้
i) ผู้บริหารมองแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดว่าผลการดำเนินงานของ CHG ในปี 2567 จะดีขึ้น YoY จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของบริการรักษาพยาบาล ทางบริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2567 ที่ 15%YoY โดยจะมาจากการให้บริการแบบเฉพาะทางที่สมุทรปราการ (ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง, หัวใจและมะเร็ง) ซึ่งมีผู้ป่วยมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติยังจะเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของ CHG ในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดให้นักวิเคราะห์ได้เยี่ยมชมศูนย์การแพทย์จุฬารัตน์ (IMC) ซึ่งตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เพื่อนำเสนอศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่ครอบคลุมมากขึ้นของโรงพยาบาลแห่งนี้ เราคิดว่าศูนย์การแพทย์แห่งนี้มีความแข็งแกร่งใน
แง่ของการรักษาพยาบาลโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นบวกต่อโอกาสการได้ผู้ป่วยที่มี intensity สูง ทั้งนี้ จากสถิติผู้ป่วยต่างชาติของ IMC ในปี 2566 พบว่า 50% เป็นผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง, 30% จากเมียนมาร์ และอีก 20% จากกัมพูชา สำหรับในส่วนของบริการประกันสังคม (SSO) บริษัทคาดว่าจำนวนผู้ป่วยลงทะเบียนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3% YoY ในปี 2567 ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยในของ SSO ยังคงชำระค่าใช้จ่ายตามอัตราที่ตกลงไว้ที่ 12,000 บาท/RW สำหรับงวด 9M66 ที่ผ่านมา
ii) ยังคงมีรายได้จากการบริหารโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่า CHG จะรับรู้รายได้ไตรมาสละประมาณ 70 ล้านบาทจากการบริหารจัดการโรงพยาบาลในพัทยา, เกาะล้าน และศูนย์หัวใจที่โรงพยาบาลสิรินธร นอกจากนี้ บริษัทยังได้ต่อสัญญาบริหารศูนย์หัวใจออกไปอีก 1 ปี 8 เดือนตั้งแต่ปี 2567
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567F ลง 2.9% และปี 2568F ลง 6.4%
เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานของ CHG ในปี 2566 เราได้ปรับประมาณการกำไรของเราใหม่ เพื่อสะท้อนแนวโน้มที่น่าจะเกิดขึ้นในอีกสองสามปีข้างหน้า โดยเราปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 ลงเหลือ 27.7% จากเดิม 28.2% และปี 2568 ลงเหลือ 28.2% จากเดิม 30.0% นอกจากนี้ เรายังปรับลดสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2568F ลงเหลือ 2.6% ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F ของเราอยู่ที่ 1.24 พันล้านบาท (+18.7% YoY) และปี 2568F อยู่ที่ 1.43 พันล้านบาท (+14.9% YoY)
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2567 ที่ 3.70 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ TG ที่ 3.0%)
Risks
COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง และ เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่
