เวสต์เทกซัส 79.97 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 83.55 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา 

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดจับตาการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในช่วงต้นเดือน มี.ค. 67 ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดกลุ่ม OPEC+ จะคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปจนถึงไตรมาส 2 ปี 2567 โดยคิดเป็นการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบโดยสมัครใจทั้งสิ้น 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย

+ สถานการณ์ความขัดแย้งในทะเลแดงยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมันดิบ โดยล่าสุดผู้นำกลุ่มฮูตีเผยอาจมีการจู่โจมเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง แบบไม่ทันตั้งตัวด้วยโดรน และขีปนาวุธ

- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. 67 ลดลงสู่ระดับ 49.1 โดยต่ำกว่าเดือน ม.ค. 67 ที่ระดับ 49.2 หลังอุตสาหกรรมหยุดงานในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา

- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับ สัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 1 มี.ค. 67 เพิ่มขึ้น 3 แท่น อยู่ที่ระดับ 506 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค. 66 ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติลดลง 1 แท่น ที่ระดับ 120 แท่น อย่างไรก็ตาม แท่นขุดเจาะทั้งหมดยังต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 16% หรือคิดเป็น จำนวนที่ลดลง 120 แท่น

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดอุปสงค์น้ำมันเบนซินลดลง ในช่วงเทศกาลถือศีลอดที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 มี.ค. 67 - 9 เม.ย. 67 ประกอบกับตลาดได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินคูเวตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 35 กิโลตัน จากการเตรียมโหลด tender วันที่ 20 - 21 มี.ค. 67

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเอเชียไปยังยุโรปเดือน ก.พ. 67 ลดลง 46.4% สู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง 14 เดือน ส่งผลให้ สต็อกน้ำมันดีเซลสิงค์โปร์ประจำสัปดาห์วันที่ 29 ก.พ. 67 ปรับตัวสูงขึ้น 15.04% สู่ระดับ 10.18 ล้านบาร์เรล