วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BANPU ประมาณการ 4Q66F: จะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จาก FX

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BANPU ประมาณการ 4Q66F: จะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จาก FX

เราคาดว่า BANPU จะขาดทุนสุทธิ 448 ล้านบาทใน 4Q66F (แย่ลงจากที่ขาดทุนสุทธิ 278 ล้านบาทใน 4Q65 และจากกำไรสุทธิ 2.1 พันล้านบาทใน 3Q66)

โดยผลประกอบการที่แย่ลง YoY จะเป็นเพราะราคาถ่านหินอ้างอิง NEX ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 65% YoY มาอยู่ที่ US$136/ton ส่วนผลประกอบการที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะคาดว่าจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5 พันล้านบาทใน 4Q66F แย่ลง QoQ จากที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.3 พันล้านบาท หลังจากที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.30 บาท/ดอลลาร์
ฯ ใน 4Q66 นอกจากนี้ เรายังคาดว่าปริมาณยอดขายถ่านหินของ BANPU จะลดลง 25% QoQ เหลือ 5.3 ล้านตัน เพราะปริมาณยอดขายถ่านหินที่อินโดนีเซียลดลง (เหลือ 3.5 ล้านตัน, -34% QoQ) เพราะบริษัทผลิตถ่านหินเต็มโควตาที่ได้จากรัฐบาลอินโดนีเซียแล้ว ในขณะที่ปริมาณยอดขายในออสเตรเลียทรงตัว QoQ อยู่ที่ 1.8 ล้านตัน โดยเรายังคาดว่าต้นทุนถ่านหินที่ออสเตรเลียจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% QoQ เป็น AUD$160/ton เนื่องจากสภาวะทางธรณีวิทยาที่ทำให้ขุดเหมืองได้ยาก ในขณะคาดว่าที่ต้นทุนถ่านหินที่อินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้น 5% QoQ เพราะสัดส่วน stripping ratio ของการทำเหมืองสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของ BANPU จะเพิ่มขึ้น 12% QoQ เป็น US$115/ton แม้ว่าราคาถ่านหินอ้างอิง NEX จะลดลง 9% QoQ เหลือ US$136/ton ใน 4Q66 เพราะปริมาณยอดขายที่อินโดนีเซียบางส่วนใช้ราคาขายเมื่อปลาย 3Q66 ซึ่งเป็นผลจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ในขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้าจะลดลง QoQ เพราะยอดผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าก๊าซสองแห่งในสหรัฐน่าจะลดลง เนื่องจากช่วง high season จบลงไปแล้วใน 3Q23 ในขณะที่เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจก๊าซจะดีขึ้น QoQ หลังจากที่ราคาก๊าซ Henry Hub เพิ่มขึ้น 6% QoQ เป็น US$2.7/mmbtu จากอุปสงค์ก๊าซที่สูงตามฤดูกาลในช่วงหน้าหนาว

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F/2567F ลง 40%/16%

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ลง 40% เหลือ 6.2 พันล้านบาท และปี 2567F ลง 16% เหลือ 6.6 พันล้านบาท เนื่องจากเราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะสูงขึ้น โดยเราได้ปรับเพิ่มสมมติฐานค่าใช้จ่าย SG&A ของเราขึ้นอีก 20% เป็น 2.08 หมื่นล้านบาทในปี 2566F และเป็น 2.10 หมื่นล้านบาทในปี 2567F เพราะ SG&A ในงวด 9M66 อยู่ที่ 1.40 หมื่นล้านบาท ในขณะที่เราคาดว่า SG&A ใน 4Q66F จะอยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ เรายังปรับสมมติฐานปริมาณยอดขายถ่านหิน, ASP ของถ่านหิน, และต้นทุนก๊าซอีกเล็กน้อยด้วย (ดังแสดงใน Figure 3)

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BANPU ประมาณการ 4Q66F: จะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จาก FX

Valuation & action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567F ลงเหลือ 8.80 บาท จาก 9.90 บาท (ดูบทวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของ KGI ฉบับวันที่ 12 ธันวาคม 2566) อิงจาก PB ที่ลดลงเหลือ 0.65x (-0.75 S.D.) จากเดิมที่ 0.75x เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรและการที่นักลงทุนบางรายซึ่งเป็นกังวลกับธุรกิจถ่านหินในแง่ของภาวะโลกร้อนลดการลงทุนลง แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำซื้อ BANPU เนื่องจาก i) มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญของโครงการ Carbon Capture, Utilization, and Storage (CCUS) สองโครงการ ได้แก่ Barnett Zero และ Cotton Cove และ ii) คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ ใน 1Q67F เนื่องจากปริมาณยอดขายถ่านหินสูงขึ้น, ต้นทุนถ่านหินลดลง และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

Risks

ความผันผวนของราคาถ่านหินและการปิดโรงไฟฟ้านอกแผน

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BANPU ประมาณการ 4Q66F: จะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จาก FX

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BANPU ประมาณการ 4Q66F: จะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จาก FX

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BANPU ประมาณการ 4Q66F: จะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จาก FX