วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Free Visa ไทย-จีน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Free Visa ไทย-จีน

วันศุกร์ที่ผ่านมา ภาคเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ มีแรงขายเร่งตัวในภาคบ่าย นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยกระทรวงพาณิชย์มีการรายงานตัวเลขส่งออก เดือนธ.ค. 66 ขยายตัว 4.7% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดโต 6.4% ทั้งปี 66 ติดลบ 1% มีแรงขายหุ้นค้าปลีก ธนาคาร และไอซีที เป็นต้น

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,368.15 จุด -7.94 จุด -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 48,278 ลบ. Program Trading -2,028.62 ลบ. ต่างชาติ -2,766.02 ลบ. TFEX +7,385 สัญญา ตราสารหนี้ +1,756.04 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 60.30 จุด หรือ +0.16% ขานรับข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ แต่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลงจากการที่หุ้นอินเทลร่วงลงหลังคาดการณ์รายได้ที่ซบเซา ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.65%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ +0.8% ปิดที่ 78.01 ดอลลาร์/บาร์เรลสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และปรับตัวขึ้น 6.5% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์เพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันของตะวันออกกลาง
+ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6%YoY ในเดือนธ.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ย.
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 97.4% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค
+ สคร.เตรียมผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐอีก 8 โครงการเข้าอยู่ในแผนการลงทุนร่วมทุนแบบ PPP ในปีนี้ รวมมูลค่าโครงการกว่า 1 แสนล้านบาท เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีโครงการลงทุนของภาครัฐที่อยู่ในแผน PPP 127 โครงการคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท โดยทุกจำนวน 1 แสนล้านบาทของการลงทุนจะช่วยผลักดัน GDP ของประเทศให้ขยายตัวได้ประมาณ 0.3%
 

 

+ ไทยและจีนร่วมลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ (ฟรีวีซ่า) กรณีพำนักแต่ละครั้งไม่เกิน 30 วัน และเมื่อรวมการเดินทางหลายๆครั้งภายใน 180 วัน ระยะเวลาในการพำนักรวมกันต้องไม่เกิน 90 วัน มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67

ปัจจัยลบ  

- สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีแนวโน้มตึงเครียดมากยิ่งขึ้น สหรัฐประกาศคว่ำบาตรผู้นำระดับสูง 4 รายของกลุ่มฮูตีในเยเมนที่อ้างว่าให้การสนับสนุนกลุ่มฮูตีในการโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวนี้บังคับใช้ร่วมกับอังกฤษ
- กรมการค้าต่างประเทศสรุปยอดการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 66 มีมูลค่า 1,742,808 ล้านบาท ลดลง 2.6% สาเหตุจากเศรษฐกิจสปป.ลาว ชะลอตัว เมียนมาสู้รบ และกัมพูชากำลังบริโภคยังไม่ฟื้นตัวดี
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่าระหว่าง 1-24 ม.ค.67 มีเงินไหลออกจากตลาดทุนไทยแล้ว 30,000 ล้านบาท ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย หลังนักลงทุนต่างชาติขายกว่า 23,868 ล้านบาท และต่างชาติขายพันธบัตรไทย 5,925 ล้านบาท
- สสว.เผยภาระหนี้สิน SME 4Q66 ยังทรงตัวที่ 60.1% ต่อเนื่องจาก 3Q66 ธุรกิจผลิตเครื่องหอม-เครื่องสำอาง-นวด-สปา มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น ภาคบริการ-การค้า ยื่นกู้เงินยังไม่ผ่านเนื่องจากถูกประเมินว่าธุรกิจไม่มั่นคง-ขาดหลักทรัพย์

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว หลังมีมาตรการฟรีวีซ่าไทย-จีน โดยจะเริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค.นี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,365-1,380 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นเด่น IAA : AOT CPALL CPN GPSC
• ครม.เคาะกรอบงบประมาณปี 68 วงเงิน 3.6 ล้านลบ. : CK STEC CIVIL UNIQ
• หุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี : SPA AUCT PLANB PRM
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY

หุ้นรายงานพิเศษ  

PRM "ซื้อลงทุน" Bloomberg Consensus ราว 8.50 บาท
คาดแนวโน้มกำไร 4Q66 จะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Free Visa ไทย-จีน

•(-) งวด 3Q66 มีกำไร 328 ลบ. -69%YoY -30%QoQ โดยมีรายได้ 1,836 ลบ. -15%YoY -12%QoQ หดตัวโดยมีสาเหตุหลักจากธุรกิจจัดเก็บน้ำมัน (FSU) ที่ -50%YoY -33%QoQ จากสถานการณ์น้ำมันที่เกิดภาวะ Backwardation หรือราคาล่วงหน้าต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ทำให้ผู้ค้าชะลอการกักเก็บน้ำมัน ประกอบกับเข้าสู่ Low Season ที่เป็นหน้าฝน ทั้งนี้ 9M66 มีกำไร 1,377 ลบ. -10%YoY

•(+) คาดแนวโน้มกำไร 4Q66 จะเห็นการฟื้นตัว QoQ อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1) ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันในประเทศเข้าสู่ช่วง High Season ของภาคการท่องเที่ยว และมีรับเรือลำใหม่เพิ่มในช่วงปลายปีนี้ 2) เรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ Alframax 1 ลำ และเรือ FSU 1 ลำ จะกลับมาให้บริการตามปกติ และ 3) จะรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเรือ FSU 1 ลำ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 1,953 ลบ. –12%YoY (9M66 คิดเป็น 70% ของประมาณการทั้งปี)

•(+) บริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) วงเงินไม่เกิน 800 ลบ. และไม่เกิน 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 4% ไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด และเริ่มซื้อคืนวันที่ 27 ธ.ค.66 - 27 มิ.ย.67 ซึ่งสะท้อนว่ามูลค่าบริษัทเริ่มถูกกว่าที่ควรจะเป็น

•(+) ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q66 ที่คาดจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน แต่มีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มปี 67 ซึ่งอยู่ในช่วงของการลงทุนทั้งการซ่อมบำรุงเรือและรับเรือเพิ่ม และคาดผลประกอบการจะทรงตัว YoY อย่างไรก็ตาม Catalyst ระยะสั้นจะมาจากการทำ Treasury Stock และผลประกอบการ 4Q66 ที่คาดจะออกมาดี โดยราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus ราว 8.50 บาท Upside 44% อัตราปันผล 5-6% แนะนำ “ซื้อลงทุน”

หุ้นมีข่าว

(+) CENTEL (Bloomberg consensus 48.25 บาท) รับกระหน่ำเที่ยวไม่หยุดดันการดำเนินงานปีนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากทั้งอัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักงวดไตรมาส 1/2567 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2566 แย้มผลงานปี 2566 สูงกว่าเป้า ขณะที่ธุรกิจอาหารต้นทุนวัตถุดิบเริ่มทรงตัวบริหารมีประสิทธิภาพ นักวิเคราะห์วางเป้า 50 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HMPRO (Bloomberg consensus 15.50 บาท) ประกาศยุทธศาสตร์ 5 ปี ก้าวสู่ธุรกิจแสนล้านบาทจากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ปูพรม 170 สาขาทั่วประเทศ และขยายช่องทางออนไลน์รองรับลูกค้า B2C-B2B มากขึ้น ลุยพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ขยายพื้นที่เพิ่ม 1 แสนตร.ม. เพิ่มประสิทธิภาพศูนย์กระจายสินค้า 4 แสนตร.ม. มุ่งสู่โลกสะอาด ทั้งรีไซเคิล เปลี่ยนรถขนส่งอีวี 50% ติดตั้งโซลาร์แล้ว 80 สาขา 60 เมกะวัตต์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg consensus 7.07 บาท) ส่องสถานการณ์ทะเลแดง (Red Sea) กระทบเส้นทางเดินเรือ ดันค่าระวางเรือขึ้นเท่าตัว เป็นบวกต่อบริษัท มองสถานการณ์ยืดเยื้อ ปักธงปี 2567 รายได้โต 20-30% บริการขนส่งทางเรือ-อากาศขยายตัว ส่วนธุรกิจ Cross Border Service ปีนี้เตรียมให้บริการตู้คุมอุณหภูมิ พร้อมเผยใกล้ฤดูส่งออกผลไม้ ดีมานด์โตแรง ขณะที่บริการรถอีวีรองรับลูกค้าเริ่มกลุ่มลูกค้าลาว เดือนเมษายนนี้ อีกทั้งยังมีลูกค้าสนใจใช้รถอีวีหลายราย อยู่ในขั้นตอนการเจรจา (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WINMED (Bloomberg consensus - บาท) ส่องธุรกิจปี 2567 ติดเครื่องวิ่งต่อ ตั้งเป้าขยายหน่วยคัดกรอง "มะเร็งปากมดลูก" ชี้จำนวนสุภาพสตรีติดเชื้อกว่า 7 พันรายต่อปี พร้อมโดดรับงบภาครัฐหนุนตรวจเพิ่มขึ้น ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% ทุ่มงบลงทุน 30 ล้านบาท เล็งซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)