วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง เงินเฟ้อไทยคาดเติบโตติดลบ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง เงินเฟ้อไทยคาดเติบโตติดลบ

ทางเทคนิค คาด SET Index ปรับตัวสูงขึ้น แนวต้าน 1,395/1,402 จุด (EMA 10 วัน) แนวรับ 1,380/1,373 จุด โดยดัชนีฯ ระยะสั้นมีแนวโน้มปรับขึ้น อิงการเกิด Candle Stick สีเขียว ที่ทำจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดสูงขึ้นกว่าเดิม

โดยจะเกิดสัญญาณซื้อหากทะลุแนวต้าน 1,402 จุด ขึ้นไปได้ โดยมีแนวต้านต่อไปที่ 1,427 จุด

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

+/-Opportunity Day: จับตาสัญญาณ Earnings Guidance ของบจ. D RPH AIMIRT PRIME KTIS HTC BJC คาดส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัว หากมีสัญญาณ Negative/Positive Guidance

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง เงินเฟ้อไทยคาดเติบโตติดลบ

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้

+ไทย: กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ย. Consensus คาดเติบโต -0.3% MoM, -0.5% YoY ลดลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ -0.28% MoM, -0.31% YoY สอดคล้องกับกระทรวงพาณิชย์ที่ส่งสัญญาณล่วงหน้าว่าเงินเฟ้อในช่วง 4Q23E มีโอกาสเติบโตติดลบ มีปัจจัยสนับสนุนจาก 1. ราคาสินค้ากลุ่มอาหารมีแนวโน้มลดลง เช่น ราคาเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ และเครื่องประกอบอาหาร 2. มาตรการลด ค่าครองชีพของภาครัฐ ส่งผลให้ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน (ค่ากระแสไฟฟ้า ราคาน้ำมัน) และสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มลดลง 3. มาตรการทางการเงิน โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และ 4. ฐานราคาในช่วงเดียวกันของปี 2022 อยู่ระดับสูง มีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว

 

KTX คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline) แม้จะหมดประโยชน์จากช่วง High base effect แล้ว แต่ด้วยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 70% อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ (มีสัดส่วน 12%) ที่ปรับตัวลดลง 3.6% MoM ในเดือน พ.ย. ส่งผลให้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline) มีแนวโน้มติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 (Figure 1) ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core) เดือน พ.ย. 2023 คาดต่ำกว่า 1% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เป็นผลจาก 1. ประโยชน์จาก High base effect  2. อยู่ในช่วงที่รัฐบาลอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลจาก 31.94 บาท เป็น 29.94 บาท/ลิตร และค่าไฟฟ้าลดลงจาก 4.45 บาท เป็น 3.99 บาท/หน่วย (เดือน ก.ย.-ธ.ค. 2023) ช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อหมวดสาธารณูปโภค 3. ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่ำกว่าแนวโน้ม โดย GDP ไทยเติบโตเพียง 1.9% YoY ใน 9M23 เทียบกับประมาณการอัตราการเติบโตทั้งปี 2023E ของธปท. ที่ 2.4% YoY

กระทรวงพาณิชย์คาดเงินเฟ้อปี 2023E อยู่ในกรอบ 1-1.7% สภาพัฒน์คาด +1.4% และธปท. คาด 1.3% ส่วนปี 2024E สภาพัฒน์และธปท. คาดเติบโต 1.4% และ 2% (กรณีไม่รวมมาตรการ Digital Wallet) ส่งผลให้แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสสูงจะคงอยู่ที่ระดับเดิม 2.5% จนถึงปี 2024 เป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มอิงดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ ไฟแนนซ์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ REITs

 

-China: ดุลการค้าเดือน พ.ย. Consensus คาดเกินดุลการค้าลดลงเป็น USD51bn. (Vs เดือน ต.ค. +USD56.53bn.) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2023 เป็นต้นมา เป็นผลจากนำเข้าคาดว่ายังเติบโตเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง +4% YoY (Vs เดือน ต.ค. +3% YoY) จาก Domestic Demand ที่เพิ่มขึ้นตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการ แต่การส่งออกคาดหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่เจ็ด -5.1% YoY (Vs เดือน ต.ค. -6.4% YoY) จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เราคาดว่าสัญญาณการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัว อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในฐานะที่จีนเป็นประเทศผู้บริโภครายใหญ่

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นบลูชิพที่รับผลบวกจากดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดลง ได้แก่ SAWAD CPNREIT และ TISCO

 

Strategic daily picks

SAWAD  ปิด 44.00 บาท/แนวรับ 41.50 บาท แนวต้าน 46.00 บาท

คาดสินเชื่อปี 2024E เติบโตดี โดยเน้นการเติบโตไปในสินเชื่อจำนำทะเบียนเป็นหลัก คาดมีผู้เล่นรายใหญ่น้อยราย จากการควบคุมอัตราเพดานดอกเบี้ย ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กออกจากตลาด และตั้งเป้าหมาย NPL กลับไปอยู่ในระดับ 3-4% (3Q23 =2.7%) โดยแนวโน้ม credit cost ปี 2024E อยู่ที่ประมาณ 1.5%-1.8% ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า KTX ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ“ มูลค่าเหมาะสมที่ 56.43 บาท

CPNREIT   ปิด 10.60 บาท/แนวรับ 9.90 บาท แนวต้าน 11.50 บาท

ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการพิจารณาไฟลิ่งการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนในปี 2024 จำนวนไม่เกิน 1,100 ล้านหน่วย เพื่อเข้าลงทุนโครงการเดิม ทั้งโครงการเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และพระราม 2 (ช่วงต่ออายุ) ซึ่งเป็นทรัพย์สินเดิมที่ลงทุนในปัจจุบัน และสร้างผลตอบแทนที่ดีมาโดยตลอด เพื่อเป็นการช่วยรักษาระดับรายได้จากการดำเนินงานให้มีความต่อเนื่องและเติบโตในระยะยาว Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 2.88 พันล้านบาท (+2.05% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 12.34 บาท

TISCO    ปิด 97.75 บาท/แนวรับ 96.25 บาท แนวต้าน 100.50 บาท

9M23 สินเชื่อขยายตัว 5.8% จากกรอบเป้าหมายปี 2023 ที่ 5-10% มาจากสินเชื่อรายใหญ่ ส่งผลต่อแนวโน้มธุรกิจปี 2023 ยังเป็นไปตามแผน พร้อมตั้งเป้า NPL ไม่เกิน 2.5% (ปัจจุบัน 2.25%) สำหรับปี 2024 เน้นทำธุรกิจแบบระมัดระวัง ด้วยการขยายสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 7.43 พันล้านบาท เติบโต 2.81% และมูลค่าเหมาะสมที่ 108.70 บาท

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง เงินเฟ้อไทยคาดเติบโตติดลบ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง เงินเฟ้อไทยคาดเติบโตติดลบ