วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ จบผันผวนจาก MSCI rebalancing บรรยากาศรายตัวน่าจะปรับดีขึ้น

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ จบผันผวนจาก MSCI rebalancing บรรยากาศรายตัวน่าจะปรับดีขึ้น

แรงส่งจากผลตอบแทนพันธบัตรช่วงสั้นจะเริ่มจำกัด ติดตามแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียน การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสาน ตัวเลขเกี่ยวกับการใช้จ่ายอย่าง Personal income ออกมา +0.2% ตามคาด (ชะลอลงจาก ก.ย.ที่ +0.3%)

ขณะที่ตัวเลขเกี่ยวกับเงินเฟ้อ อย่าง PCE Deflator ชะลอลง ออกมา +0.0% MoM (เทียบคาดการณ์ที่ +0.1% และก.ย.ที่ +0.4%), +3.0% YoY (เทียบคาดการณ์ที่ +3.1% และก.ย.ที่ +3.4%) ทั้งนี้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงจาก 5% เหลือใกล้ 4.3% ซึ่งถือได้ว่าสะท้อนการชะลอลงของเงินเฟ้อในระดับพอสมควรแล้ว ทำให้ระยะสั้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอาจเริ่มดีดตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้แรงหนุนที่มีต่อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นชะลอลง โดยต้องกลับไปติดตามแนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะเป็นปัจจัยกำหนดมุมมองของการลงทุน ทั้งนี้เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกจาก EPS ของ SET Index ที่เริ่มฟื้นดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในช่วงกลางพ.ย. 

ผันผวนจากการปรับพอร์ตตามดัชนี MSCI (MSCI rebalancing) ปริมาณการซื้อขายวานนี้ขึ้นไปแตะ 77,335 ล้านบาท โดยรวมเป็นผลจากการปรับหุ้นตามดัชนี MSCI (หรือ MSCI rebalancing) ที่มีผล ณ สิ้นวันทำการ ซึ่งกระทบต่อหุ้นขนาดใหญ่อย่าง BGRIM, EGCO, RATCH ที่หลุดจากดัชนีหุ้นใหญ่ (MSCI Global standard) เข้าสู่ดัชนีหุ้นเล็ก (MSCI Global Small Caps) ประเมินระยะสั้นตลาดอาจจะยังผันผวนจากปัจจัยภายนอกระหว่างรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) วันที่ 13 ธ.ค. แต่บรรยากาศเก็งกำไรหลังการ rebalancing น่าจะกลับมาปรับดีขึ้น โดยมีแรงหนุนจาก 1) การออกกองทุน TESG 2) การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอย่าง E-refund 3) ความคาดหวังเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศจะถูกนำกลับเข้ามาในช่วง ม.ค.67 
 

ภาพรวมกลยุทธ์ ลุ้นไม่หลุด 1,366 จุด เพื่อฟื้นตัว คาดบรรยากาศเก็งกำไรรายตัวโดยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็ก ยังเป็นบวก และคงประเมินภาพใหญ่ของตลาดช่วงปลายปีต่อต้นปีฟื้น จากเงินเฟ้อชะลอ กดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง บวกต่อการฟื้นตัวของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง

หุ้นแนะนำ: SCGP, AAI*, CPN*, AWC.

แนวรับ: 1,366 / แนวต้าน : 1,400 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

สหรัฐเผยดัชนี PCE +3.0% เดือนต.ค. สอดคล้องคาดการณ์ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.4% ในเดือนก.ย. (อินโฟเควสท์)

โอเปคพลัสเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว แต่วืดบรรลุข้อตกลงหั่นการผลิตเพิ่มปีหน้า –โอเปคพลัส ได้เสร็จสิ้นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แล้ว แถลงการณ์หลังการประชุมไม่มีการระบุว่าโอเปคพลัสจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ตามที่สื่อรายงานก่อนหน้านี้แต่อย่างใด (อินโฟเควสท์)
 

ระเบิดเวลา 'พลังงาน' เตือนรับมือ 'ค่าไฟ-เบนซิน-ดีเซล' ขึ้นราคา – จับตา “พลังงาน” หาแนวทางอุ้มราคา “น้ำมัน-ค่าไฟ” หลังมาตรการใกล้ครบกำหนดสิ้นปีนี้ ลุ้น “พีระพันธุ์” ปรับโครงสร้างแก้พลังงานแพงทั้งระบบ  กกพ. เคาะค่าไฟงวดม.ค.-เม.ย. 67 ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย “เอกชน”ชี้พลังงานต้นทุนผลิตพุ่ง (กรุงเทพธุรกิจ)

TESG เริ่มใช้ 1 ธ.ค. 66 - เรามองหุ้นยั่งยืนที่ได้รับการจัดอันดับ AAA และ AA ที่น่าสนใจจะเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกองทุนที่จะถูกจัดต้ัง หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ AAA – ADVANC, AMATA, BCP, BGRIM, CPALL, CPAXT, CPF, CRC, KBANK, OR, PTT, SCGP, WHA / AA – BAM, BBL, BCH, BDMS, BJC, CPN, EA, GULF, MAJOR, MINT, OSP, SCB เป็นต้น

ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ เริ่ม 1 ธ.ค. - ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และเปิดระบบรับลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแก้หนี้นอกระบบ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป (ประชาชาติ)

 

ประเด็นติดตาม: 1 ธ.ค. -US ISM Manufacturing PMI, ISM Manufacturing Services /        5 ธ.ค. - US S&P Global Services PMI, ISM Non-Manufacturing PMI, ISM Non-Manufacturing Prices, JOLTs

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)