วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง คาดมีข่าวดีจากกนง. คงดอกเบี้ย

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

+ผลประชุม กนง.: แม้ผลประชุมล่าสุด คณะกรรมการ กนง. มีมติ 7 ต่อ 0 ให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps เป็น 2.5% อิงบริบทที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวกลับเข้าสู่ระดับศักยภาพ นโยบายการเงินควรดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืน และช่วยเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี กนง. มีการเปิดช่องทางของการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน โดยจะพิจารณาให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ทำให้ KTX คาดว่าผลประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย หลังปรับขึ้นต่อเนื่อง 8 ครั้ง จำนวน 200 bps ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวกว่าคาดการณ์ (สภาพัฒน์ฯ ปรับลดเป้าหมายเติบโตปี 2023E ลงเป็น 2.5% จากเดิม 2.5-3.0%) และอัตราเงินเฟ้อ ณ เดือน ต.ค. อยู่ที่ -0.31% YoY ซึ่งต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 2.50% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 10 ปี ที่ 2.97% จนทำให้อัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแท้จริง ถ่างมากขึ้นเป็น 2.81% และ 3.28% สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับของสหรัฐฯ ที่ 2.30% และ 1.30% ตามลำดับ

KTX คาดว่ากลุ่มไฟแนนซ์ อสังหาฯ REITs จะได้รับผลบวกจากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างไรก็ดี ผลกระทบทางลบ คือ การไหลเข้าของกระแสเงินทุนต่างชาติในตลาดพันธบัตรไทย มูลค่ากว่า +30.8 หมื่นล้านบาท (YTD) มีโอกาสชะลอลงหรือพลิกกลับกลายเป็นกระแสเงินทุนไหลออก อันเกิดจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแท้จริงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ผ่านระดับ Peak Out ไปแล้ว

 

+/-Opportunity Day: จับตาสัญญาณ Earnings Guidance ของบจ. CIVIL TRC AH THAI LEO IRPC KWI AMATA KJL HARN MEB ALLY BLC AURA PM/Digital Online: BEC SJWD III RS SAT คาดส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัว หากมีสัญญาณ Negative/Positive Guidance

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้

+US: เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตดี แม้จะผ่านจุดสูงสุดใน 3Q23E Consensus คาด US 3Q23E GDP Growth ครั้งที่สองจะเติบโตสูง +4.9% QoQ (Vs 2Q23 GDP เติบโต +2.1% QoQ) และคาดว่าแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ 4Q23E GDP Growth ยังคงมีแนวโน้มเกิด Positive Surprise อิง Fed Atlanta คาดการณ์เติบโตสูง +2.1% QoQ ซึ่งสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับคาดการณ์ของ Consensus ที่ +0.8% QoQ ขณะที่ปี 2024E คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าระดับ 1% (ไม่เกิด Recession) เพิ่มโอกาสให้เฟดมีโอกาสคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม 5.5% ยาวนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ (CME FedWatch Tool คาดเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือน พ.ค. 2024 และคาดปรับลดดอกเบี้ย 100 bps ในปี 2024E)

+Germany: ประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอียู คาดรายงานเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือน พ.ย. ลดลงต่อเนื่อง โดย Consensus คาดว่าจะขยายตัว -0.2% MoM, +3.5% YoY เทียบกับเดือน ต.ค. ที่ 0% MoM, +3.8% YoY เป็นสัญญาณบวกต่อตลาดหุ้นเยอรมนีคืนนี้

+/-EU: รายงานดัชนีความเชื่อมั่น Economic Sentiment เดือน พ.ย. คาดเพิ่มขึ้นเป็น 93.8 (จาก 93.3) แต่ Service Sentiment เดือน พ.ย. คาดลดลงเป็น 4.3 (จาก 4.5) ทำให้เศรษฐกิจยังคงมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจเติบโตลดลง แต่เงินเฟ้อสูง) อันเป็นสาเหตุให้ผจก.กองทุนโลก ยังคงแนะนำลดน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้น EU ในการสำรวจเดือน พ.ย.

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ TIDLOR MTC AP คาดรับผลบวกจากวงจรดอกเบี้ยไทยคาดสิ้นสุดขาขึ้น

 

Strategic daily picks

TIDLOR   ปิด 23.00 บาท/แนวรับ 22.30 บาท แนวต้าน 23.80 บาท

KTX ประเมินว่ากำไรของ TIDLOR เติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ในปี 2023E -25E จาก 1) สินเชื่อกลับมาเติบโตเฉลี่ยปีละ 17.4% ในอีก 3 ปีข้างหน้า 2) Credit cost ที่ มีแนวโน้มลดลง (คาดว่าจะ peak ในปี 2023) และแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 24.42 บาท ด้วยประมาณการกำไร 12 เดือนข้างหน้า คิดลดด้วยอัตราความคาดหวังที่ 6.3%

 

MTC   ปิด 44.00 บาท/แนวรับ 42.00 บาท แนวต้าน 46.50 บาท

บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปี 2024E เติบโตไม่เกิน 20% สอดคล้องกับประมาณการของ KTX โดยเน้นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกัน และเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน โดยใช้กลยุทธ์ในการปล่อยลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระสินเชื่อกับ MTC ทำให้สัดส่วนสินเชื่อมีหลักประกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่การฟื้นตัวของกำไรในปี 2024E ยังเป็นไปตามประมาณการของ KTX จากแนวโน้มที่ดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์

 

AP    ปิด 11.30 บาท/แนวรับ 10.60 บาท แนวต้าน 12.00 บาท

ในช่วง 4Q23 บริษัทเตรียมเปิดตัว 23 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3.57 หมื่นล้านบาท ทั้งกลุ่มแนวราบ (ทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว) และแนวสูง (กลุ่มคอนโดมิเนียม) ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโต Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 6.23 พันล้านบาท (+6.06% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 14.31 บาท