วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก หุ้นกลุ่มพลังงานหนุนตลาด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก หุ้นกลุ่มพลังงานหนุนตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนโดยเคลื่อนไหว ระหว่าง -9 ถึง +7 จุด เมื่อดูตลาดหุ้นในภูมิภาค จะเห็นว่าส่วนใหญ่ก็ปรับตัวลง โดยแรงขายหลักมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรง ราว -5% และแรงขายหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

นักลงทุนจับตาการประชุม FOMC วันที่ 22 พ.ย. นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,415.78 จุด +0.44 จุด +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 45,608 ลบ. ต่างชาติ +97.15 ลบ. TFEX -15,343 สัญญา ตราสารหนี้ -1,839.50 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 1.81 จุด หรือ +0.01% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวก 1.9% และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีแนวโน้มที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 1H67
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งขึ้น 2.99 ดอลลาร์ หรือ +4.1% ปิดที่ 75.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรและชดเชยการทำชอร์ตเซลล์ และการที่สหรัฐกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซีย อย่างไรก็ตามในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงมากกว่า 1%
+ FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. 2566, ม.ค. 2567 และมี.ค. 2567 ก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567
+ รัสเซียประกาศยกเลิกคำสั่งระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินหลังสต็อกน้ำมันเบนซินในประเทศเพิ่มขึ้นราว 2 ล้านตัน และทำให้ราคาปรับตัวลง

ปัจจัยลบ 

- กลุ่มพันธมิตรฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่ากองทัพเมียนมาเปิดปฏิบัติการโจมตีทั้งทางอากาศและทะเลเพื่อยึดคืนเมืองเปาะตอ (Pauktaw) หลังกองทัพเมียนมาถูกศัตรูถล่มครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
- รัสเซียส่งโดรนโจมตีกรุงเคียฟต่อเนื่องแม้ว่าจะยังไม่มีการรายงานความเสียหายหรือข้อมูลผู้บาดเจ็บจากการโจมตี ขณะที่ยูเครนเองก็ส่งโดรนโจมตีกรุงมอสโกแต่ถูกยิงตกลงก่อน
 

- UN คาดการณ์ว่า อัตราความยากจนในปาเลสไตน์อาจจะพุ่งสูงถึง 45% หรือคิดเป็นจำนวนประชาชน 660,000 ราย หากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไปเป็นเดือนที่ 3
- REIC รายงานว่าอุปสงค์จำนวนหน่วยและมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ 94,946 หน่วย ลดลง 7%YoY และ 267,655 ล้านบาท ลดลง 2.6%YoY
 

แนวโน้มตลาดวันนี้   

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,410-1,420 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลง : TIDLOR SAWAD MTC
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• MSCI Global Standard เข้า : - ออก : BGRIM EGCO RATCH MSCI Small cap เข้า : BGRIM EGCO RATCH ออก : ACE ASK KEX ONEE RAM SABUY TTA TFG VIBHA ใช้ราคาปิด 30 พ.ย.
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

BDMS "ซื้อ" Bloomberg Consensus 34.0 บาท
"มุมมองบวกอ่อนๆ ต่อผลประกอบการ 4Q66"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก หุ้นกลุ่มพลังงานหนุนตลาด

•งวด 3Q66 มีกำไร 3,890 ลบ. +15%YoY +27%QoQ (ดีกว่าตลาดคาด 11%) โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 26,699 ลบ. +11%YoY +10%QoQ ทำ New High จากรายได้รักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยทั้งชาวต่างชาติ (สัดส่วน 26%) และชาวไทย (สัดส่วน 74%) ที่เติบโตดี +19% และ +9% จากปีก่อนตามลำดับ และหากไม่รวมรายได้เกี่ยวกับโควิด-19 จะเติบโต 23%YoY สะท้อนการรักษาพยาบาลโรคทั่วไปที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และอัตราการครองเตียงทรงตัวที่ระดับ 76% (3Q65 = 76%, 2Q66 = 69%) นอกจากนี้ การเติบโต QoQ ยังได้ผลบวกจากโรคประจำฤดู อาทิ RSV และไข้หวัดใหญ่ โดย 9M66 มีกำไร 10,424 ลบ. +10%YoY

•แนวโน้ม 4Q66 คาดกำไรโต YoY และมีโอกาสทรงตัว QoQ แม้ผ่านพ้นช่วง High Season โดย ผู้บริหารปรับเป้าเติบโตของรายได้ปี 66 เป็น 9-10% (เดิม 6-8%) เนื่องจากมีโรคระบาดต่อเนื่องในเดือนตุลาคม (อาทิ RSV และไข้หวัดใหญ่) นอกจากนี้ แนวโน้มผู้ป่วยต่างชาติแบบ Fly-in และนักท่องเที่ยวที่คาดจะเร่งขึ้นจากการเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยว โดย Bloomberg Consensus คาดกำไร 4Q66 ราว 3,309 ลบ. 6%YoY -15%QoQ ซึ่งเราคาดมีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ

•รายได้ปี 67 มีโอกาสเติบโตจาก 3 ปัจจัย คือ 1) การปรับค่ารักษาพยาบาล 2) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติ (Expat และ Fly-in) มีโอกาสเติบโตต่อเพราะปัจจุบันยังไม่กลับเข้าสู่ระดับปกติ และ 3) กลุ่มคนไข้ในประเทศยังเติบโตจากการรักษาเชิงป้องกัน อาทิ Check-up และ Wellness มากขึ้น และแผนขยาย รพ.พญาไทบ่อวินคาดจะแล้วเสร็จปลายปี 67 และเปิดบริการปี 68 รองรับดีมานต์โซน EEC พร้อมกับเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ประกันตนสู่ 1 ล้านรายในปี 68 (คาดปลายปี 66 7.9 แสนราย)

ความเห็น เรามีมุมมองบวกอ่อนๆต่อผลประกอบการ 4Q66 ที่คาดว่าจะทรงตัวแม้ผ่านช่วง High Season แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากฐานสูงใน 3Q66 ซึ่งทำให้มีโอกาสอ่อนตัว QoQ หากนักท่องเที่ยวน้อยกว่าคาด ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 9%YTD อ่อนแอกว่ากลุ่มที่ +1%YTD ทำให้ Downside risk จำกัด แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 34.00 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) BGRIM (Bloomberg consensus 32.00 บาท) ประกาศปีหน้าเติบโตต่อเนื่อง รับรู้ผลิตไฟฟ้าใหม่เพียบ มั่นใจผลงานไตรมาส 4/2566 จะเติบโตต่อเนื่อง โรงไฟฟ้า BGPAT3 เริ่ม COD ธันวาคมนี้ เดินหน้าลงทุนทั้งคว้า PPA และการเข้าซื้อกิจการ ควบคู่ปรับปรุง Gas Turbine เพิ่มกำลังการผลิต จับตาการเคาะ Ft งวดใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SABUY (Bloomberg consensus 12.00 บาท) เร่งเครื่องส่งท้ายไตรมาส 4/2566 มองผลงานดีกว่าไตรมาสก่อน ธุรกิจแกนหลักยังมีผลการดำเนินงานเติบโตในระดับที่ดี รับปี 2566 รายได้รวมอาจทำได้ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท ไปไม่ถึงเป้า 1.2 หมื่นล้านบาท วางงบปี 2567 ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท แย้มดีล TKC-AIT จบเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ดีล AS จบเดือนมกราคม 2567 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCPG (Bloomberg consensus 11.45 บาท) ปักหมุดปี 2567 อีบิทดาทะยาน 30% จากปี 2566 ยอดขายไฟโตต่อเนื่อง-นิวบิสซิเนสหนุน พร้อมเดินหน้าควักงบ 1.4 หมื่นล้านบาท ปั้นโครงการเดิม-ของใหม่เพิ่ม จากเดิมที่มีกำลังรวมราว 1,200 เมกะวัตต์ บอสใหญ่ใส่เกียร์รุกสยายปีกไฟฟ้าทั้งใน-นอก เต็มพิกัด หวังดันยอดขายไฟพุ่งเกือบเท่าตัว-กำไรก้าวสู่ระดับ 3 พันล้านบาท ในปี 2573 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) INSET (Bloomberg consensus 2.32 บาท) รับทรัพย์ดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตต่อเนื่อง คาดมีเม็ดเงินในตลาดกว่าพันล้านบาท ลุยจัดทัพพร้อมเข้าชิงงานเติมพอร์ตแบ็กล็อก ไตรมาส 4/2566 เข้าประมูล 500 ล้านบาท พร้อมปักธงรายได้ปีหน้าโต 5-10% (ที่มา ทันหุ้น)