วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ แต่ดัชนียืนบวกได้ในช่วงปิดตลาด หลังจากที่วันก่อนหน้าปรับตัวบวกแรง ราว 29 จุด แรงขายมากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ การเงิน รวมถึงหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมามากในวันก่อนหน้า มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน

โดยนักลงทุนติดตามการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,415.34 จุด +0.17 จุด +0.01% มูลค่าการซื้อขาย 43,028 ลบ. ต่างชาติ -1,615.42 ลบ. TFEX -14,527 สัญญา ตราสารหนี้ +69.54 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงสุดในรอบ 3 เดือนและสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า FED จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 49.8% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567 จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 32.1% เมื่อเดือนที่แล้ว
+ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนบรรลุข้อตกลงในการกลับมาติดต่อสื่อสารระหว่างกองทัพของสองประเทศที่การประชุมสุดยอดในนครซานฟรานซิสโก
+ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า GDP สหรัฐขยายตัว 2.2% ใน 4Q66 หลังจากมีการขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ใน ไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ
+กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยเป้าหมายการส่งออกของไทยในปี 2567 ในเบื้องต้น จะขยายตัวที่ 1.99% มูลค่า 287,754 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10 ล้านล้านบาท โดยต้องรอตัวเลขการส่งออกทั้งปี 66 ก่อน ทั้งนี้ในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้จะยังขยายตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่องทำให้คาดว่าการส่งออกทั้งปีจะติดลบราวไม่เกิน 1% น้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 45.74 จุด หรือ -0.13% หลังจากบริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ และบริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยคาดการณ์ผลกาไรในปี 2567 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
 

 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 3.76 ดอลลาร์ หรือ -4.9% ปิดที่ 72.90.ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน
- สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคานำเข้าร่วงลง 0.8%MoM ในเดือนต.ค. ปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,410-1,425 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลง : TIDLOR SAWAD MTC
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• MSCI Global Standard เข้า : - ออก : BGRIM EGCO RATCH MSCI Small cap เข้า : BGRIM EGCO RATCH ออก : ACE ASK KEX ONEE RAM SABUY TTA TFG VIBHA ใช้ราคาปิด 30 พ.ย.
ESG Fund : TVO CRC SYNEX WHA BGRIM BPP GPSC CPALL
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

DMT - Bloomberg consensus 14.20 บาท
4Q66-1Q67 เป็นช่วง Peak ของปริมาณการจราจร


วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

 

•รายงานรายได้ 3Q66 เท่ากับ 590 ลบ. +34%YoY, +6%QoQ และมีกำไรสุทธิ 269 ลบ. +39%YoY, +15%QoQ สาเหตุมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นหนุนปริมาณการใช้ทางยกระดับเพิ่มเป็น 107,437 คันต่อวัน +16%YoY ขณะที่กำไรสุทธิ 9M66 เท่ากับ 756 ลบ. +39%YoY คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 44% เพิ่มขึ้นจากระดับ 43% ใน 9M65

•ผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 66 เติบโต 30% คาดปริมาณการจราจรเฉลี่ย 110,000 คันต่อวัน +29%YoY ขณะที่ปริมาณการจราจรเฉลี่ยเดือนตุลาคม 107,724 คันต่อวัน +1%MoM โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเดินทางภายในประเทศทำให้ปริมาณการจราจรผู้ใช้ทางยกระดับเพิ่มขึ้น

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 4Q66-1Q67 เนื่องจากเป็นช่วง Peak ของปริมาณการจราจรคาดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.15 แสนคันต่อวัน หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรทั้งปี 66 เฉลี่ย 962 ลบ. +23%YoY โดยกำไร 9M66 คิดเป็น 79% ของประมาณการทั้งปี ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น +16%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 15 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 66 เท่า อีกทั้ง DPS 0.35 บาทต่อหุ้น XD 23 พ.ย. yield เท่ากับ 2.8% ขณะที่ IAA consensus คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 66 เฉลี่ย 9.2% ต่อปี เราจึงแนะนำ “ซื้อรับเงินปันผล”

หุ้นมีข่าว

(+) SUSCO (Bloomberg consensus 6.30 บาท) เฮ! ยอดขาย BYD มาแรงไตรมาส 4 บรรยากาศชวนซื้อ มอเตอร์เอ็กซ์โปกระตุ้นแห่ซื้อ ก่อนรัฐบาลลดมาตรการอุดหนุนภาษีอีวี 1.5 แสน ขณะที่ BYD ลุยตลาดแหลก เปิดตัวอีวีหลายรุ่น เจาะทุกเซ็กเมนต์เป็นผลดี เดินหน้าขยายโชว์รูมต่อเนื่อง ชี้เป็นโอกาสใหญ่ 2-3 ปี ขณะที่ปั๊มน้ามันไฮซีซันเติบโตสูง ลุยขยายคอมมูนิตี้มอลล์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GULF (Bloomberg consensus 56.25 บาท) ขยายใหญ่ ประกาศแผนลงทุน 9 หมื่นล้านบาท ใน 5 ปี (2567-2571) เน้นพลังงานทดแทน ปี 2567 ใส่ 2 หมื่นล้านบาท ปักธงรายได้โต 30% จากปีก่อน กำลังการผลิตเพิ่มอีกกว่า 2,490 เมกะวัตต์ เตรียมออกหุ้นกู้ 3-3.5 หมื่นล้านบาท พร้อมลุย Gulf Binance ลั่นจะกวาดแชร์ 50% ไตรมาส 4 โตต่อเนื่องแม้ค่าไฟลด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg consensus 4.30 บาท) คาดผลงานไตรมาส 4/2566 ทำออลไทม์ไฮ ธุรกิจซอสขายดีเร่งอัพกำลังการผลิต รับรู้รายได้ซูเปอร์มาร์เก็ต BAMBOO MART เต็มไตรมาส เดินหน้าเข้าระดมทุนตลาดหุ้นแนสแด็กไตรมาส 2 ปีหน้า ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ขายดีออกพรีเมียม ยอด OEM ดันมาร์จิ้น มั่นใจปีนี้ยอดขายโต 30% ตามเป้า ลุยลดคาร์บอน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPAXT (Bloomberg consensus 35.25 บาท) แย้มไตรมาส 4/2566 โตต่อเนื่อง ไฮซีซันของการจับจ่ายใช้สอยหนุนยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้น พร้อมกางแผนปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายเติบโตตัวเลขหลักเดียวระดับสูง มีอีบิทดาที่ไม่น้อยกว่า 11-13% จัดงบลงทุน 18,000-20,000 ล้านบาท เพื่อการปรับปรุงและขยายสาขาเพิ่มเติม (ที่มา ทันหุ้น)