วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PPI ชะลอตัว

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PPI ชะลอตัว

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเปิดโดดขึ้นในแดนบวกราว 15 จุด และ sideway up ต่อเนื่อง ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากสหรัฐฯ รายงาน CPI เดือนต.ค. 66 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ Bond Yield ปรับตัวลง ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น

แรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และค้าปลีก เป็นต้น แต่มีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,415.17 จุด +29.13 จุด +2.10% มูลค่าการซื้อขาย 63,738 ลบ. ต่างชาติ +3,558.85 ลบ. TFEX +49,278 สัญญา ตราสารหนี้ +4,017.28 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 163.51 จุด หรือ +0.47% หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดต่ำกว่าคาดทำให้นักลงทุนเชื่อว่า FED จะหยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัททาร์เก็ตบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) +1.3%YoY ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ +1.9%YoY จาก +2.2%YoY ในเดือนก.ย. ดัชนี PPI -0.5%MoM ปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาด +0.1%MoM
+ FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงให้น้ำหนัก 100% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. และคาดว่า FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. 2567 ซึ่งเร็วกว่าเดิมในเดือนมิ.ย. 2567

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ -2% ปิดที่ 76.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่าคาด และการผลิตน้ำมันในสหรัฐสูงเป็นประวัติการณ์
- ยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. ปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ย.
- ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 88.4 ลดลง จาก 90.0 ในเดือนกันยายน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดในรอบ 16 เดือน

 

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัว Sideway ออกข้าง หลังสหรัฐรายงานตัวเลข PPI ปรับตัวขึ้น 1.3%YoY ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.9% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,410-1,420 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลง : TIDLOR SAWAD MTC
• นายกสั่งเอกชนเดินหน้าโครงการเหมืองแร่โปแตช : TRC ITD
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• MSCI Global Standard เข้า : - ออก : BGRIM EGCO RATCH MSCI Small cap เข้า : BGRIM EGCO RATCH ออก : ACE ASK KEX ONEE RAM SABUY TTA TFG VIBHA ใช้ราคาปิด 30 พ.ย.

 

 

  

หุ้นรายงานพิเศษ  

XO - "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" (ราคาเหมาะสม 33.40 บาท)
มองบวกต่อแนวโน้มรายได้ 4Q66 คาดจะโตทำ All Time High

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก PPI ชะลอตัว

•(+) มองบวกต่อแนวโน้มรายได้ 4Q66 คาดจะโตทำ All Time High ต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อยังคงแข็งแกร่งของ Distributor รายเดิมและรายใหม่ในทวีปอเมริกาเหนือตั้งแต่ 3Q66 โดยปัจจุบันผลิตสินค้าไม่พอขาย ซึ่งลูกค้าต้องออเดอร์ล่วงหน้าอย่างน้อย 4-6 อาทิตย์ ขณะที่ความเสี่ยงจากคู่แข่งเจ้าใหญ่กลับเข้าสู่ตลาดกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่เห็นผลกระทบมากนัก ซึ่งคาดว่าเจ้าดังกล่าวยังไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากรสชาติที่ไม่เหมือนเดิม เนื่องจากปัญหาด้านวัตถุดิบพริกก่อนหน้านี้ ส่วนคู่ค้ายังคงส่งคำสั่งซื้อกับบริษัทเหมือนเดิม อย่างไรก็ดี 4Q66 อาจมีค่าใช้จ่ายโบนัสมากขึ้นกว่าที่ตั้งสำรองไว้ ทำให้กดดันต่อผลประกอบการ

•(+) ผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 20% แม้ฐานสูง คาดยังมีโอกาสเติบโตจากขยายมาร์เก็ตแชร์ในตลาดอเมริกา และโอกาสในการเติบโตในขณะที่เจ้าใหญ่ยังไม่แข็งแกร่ง ซึ่งกลยุทธ์ในปีหน้าจะมุ่งเน้นทำให้สินค้าติดตลาดและขยายไปยังร้านค้า Modern Trade (จากเดิม Traditional Trade) พร้อมกับงบฯ Listing Fee ที่เพิ่มขึ้นจากปี 66 กว่าเท่าตัว ควบคู่กับการทำ Marketing อย่างไรก็ตาม แม้ U.rate ปัจจุบันเร่งขึ้นกว่า 120% แต่คาดยังเพียงพอต่อการรองการเติบโตในปีหน้า ขณะเดียวกับบริษัทมีแผนเพิ่มไลน์ผลิตแบบเร่งด่วนที่โรงงานอมตะ งบลงทุน 200 ลบ. (รองรับยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 1 พันลบ./ปี) คาดเสร็จปลายปี 67 พร้อมผลิตต้นปี 68 ซึ่งได้รับสิทธิ BOI ใหม่ ทดแทนอันเก่าที่กาลังจะหมดไป

•(-) ราคาน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นคาดไม่กระทบในช่วง 4Q66-1H67 เนื่องจากวัตถุดิบส่วนใหญ่ถูกล็อคราคาไปจนถึงกลางปี 67 ส่วนราคาพริกและกระเทียมยังคงทรงตัว ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงหากราคาน้ำตาลในช่วง 2H66 ยังคงทรงตัวสูง

หุ้นมีข่าว

(+) SABUY (Bloomberg consensus 12.00 บาท) จับมือ DHL ปั้นโมเดล "SABUY Dee" ยกระดับการขนส่ง รุกเจาะตลาดแม่ค้าออนไลน์-กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ แถมวางหมากอัพพอร์ตร้านสะดวกส่ง สิ้นปีนี้แตะ 23,000 สาขา หวังขยายฐานรับทรัพย์ หนุนภาพรวมปี 2567 โตต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GABLE (Bloomberg consensus 6.75 บาท) ประกาศผลงาน Q3/2566 ฟอร์มแจ่ม โกยรายได้ 1,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ชูรายได้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์เติบโตสูง 55% จากปีก่อน พร้อมรุกธุรกิจมีศักยภาพต่อเนื่อง อวดแบ็กล็อกในมือแตะ 4 พันล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SYNEX (Bloomberg consensus 13.07 บาท) เปิดผลงานไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวม 9,370 ล้านบาท กำไร 142 ล้านบาท สินค้าคอนซูเมอร์เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แถมอานิสงส์ iPhone 15 และ HONOR หนุน ขณะที่กลุ่มคอมเมอร์เชียล เดินหน้าชิงส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่ม คาดงาน โปรเจ็กต์ไอทีเร่งส่งมอบปีนี้ถึงปีหน้าต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg consensus 3.68 บาท) ล่าสุดได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้อยู่ใน SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ที่ระดับ "AA" ในกลุ่มทรัพยากร เผยงบ Q3/2566 มีรายได้ 1,627.5 ล้านบาท และกำไรที่ 316.8 ล้านบาท คาดปีหน้า COD โรงไฟฟ้า ชีวมวลและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 6-7 โครงการ เสริมรายได้-กำไรโตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)