วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ MAJOR คาดกำไร 4Q66F แข็งแกร่ง
กำไรสุทธิของ MAJOR ใน 3Q66 อยู่ที่ 104 ล้านบาท (+406% YoY แต่ -80% QoQ) ในช่วง 3Q66 ราคาเฉลี่ยตั๋วหนัง (average ticket prices: ATP) เพิ่มขึ้นเป็น 173 บาท (+2% YoY และ +11% QoQ) ด้วยการใช้โปรโมชั่นลดราคาตั๋วหนัง
ขณะที่ จำนวนผู้ชมภาพยนตร์ลดลง QoQ อยู่ที่ 5.91 ล้านคน (+1% YoYแต่ -32% QoQ) เนื่องจากมีหนังรอฉายน้อยและเป็นช่วง low season ทั้งนี้ ยอดขายตั๋วที่ทำรายได้สูงสุด 3 อันดับแรกใน 3Q66 ได้แก่ Mission Impossible 7 (83 ล้านบาท) Oppenheimer (67 ล้านบาท)และ MEG2: The Trench (66 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโฆษณาและโบว์ลิ่งดีขึ้น YoY และ QoQ ใน 3Q66 และมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาสถัดไป
แม้ว่าผู้ชมภาพยนต์เบาบางใน 3Q66 แต่หวังว่าผู้ชม ฯ จะฟื้นตัวหนาแน่นขึ้นใน 4Q66F เมื่อได้แรงหนุนจากภาพยนต์ไทยโด่งดัง (รายได้จากหนังเรื่องสัปเหร่อ สูงกว่า 700 ล้านบาทและหนังเรื่องธี่หยด ทำรายได้มากว่า 400 ล้านบาท) นอกจากนั้น ภาพยนตร์ดังอื่นๆ จากทั้งค่าย Hollywood และผู้ทำหนังไทยจะยังมีผู้ชม ฯ รอเข้าฉายอีกใน 4Q66F ( เช่น Aquaman and the Lost Kingdom และ 4 Kings ภาค 2) ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้กำไรใน 4Q66 พุ่งขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายการรับรู้เงินได้ภาษีอีกราว 140 ล้านบาทใน 4Q66 -1Q67F (เทียบกับ 100 ล้านบาทใน 3Q66) ทำให้น่าจะมีความเสี่ยงด้านบวก upside risk จากประมาณการกำไรปี 2566-2567 ของเรา
คงประมาณการกำไรปี 2566F-2567F ของเรา
บริษัทคาดกำไรปี 2566 จะสูงเกือบ 1.0 พันล้านบาท (คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 397% YoY) โดยที่ กำไรสะสมงวด 9M66 อยู่ที่ 707 ล้านบาท (คิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเรา) มองไปในอนาคต บริษัทคาดโมเมนตัมของกำไรเติบโตต่อเนื่องในปี 2567F ขับเคลื่อนจากทั้งภาพยนตร์โด่งดังจากค่าย Hollywood และภาพยนต์พร้อมรอเข้าฉาย (Figure 4) ทั้งนี้ เรายืนยันคงประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 955 ล้านบาท (+279% YoY) และที่ 816 ล้านบาท (-15% YoY) ในปี 2567F
Valuation & Action
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธีการคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ปี 2567 ที่ 20.60 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.6% และ Terminal Growth rate (TG) ที่ 0.5%)
Risks
รายได้จากโรงภาพยนต์ต่ำกว่าคาด
