วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ลุ้นผลประกอบการ Apple

ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้าน 1,390/1,398 จุด (EMA 10 วัน) แนวรับ 1,370/1,366 จุด (จุดต่ำสุดปีนี้) แต่ยังคงอยู่ภายใต้อิทธิพลของรูปแบบขาลง Rounding Top (U คว่ำ-shape) กรอบ 1,187-1,716 จุด ที่ทำไว้ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. 2020
ทำให้การแกว่งตัว Sideway Up ระยะสั้นในปัจจุบัน คาดว่าเป็นชั่วคราว จากการเข้าเขต Oversold Area ของสัญญาณเทคนิค RSI, Stochastic ก่อนที่จะมีโอกาสสร้างจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ 1,350 จุด
ประเด็นสำคัญวันนี้ ได้แก่
+3Q23 Earnings Results: US ไฮไลท์อยู่ที่การประกาศผลประกอบการของ Apple (คาด USD1.39 Vs USD1.29) เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์ที่มีขนาด Market Cap. สูง และมีผู้จัดการกองทุนโลกจำนวนมากถือครองอยู่ ส่วนบจ.อื่น ๆ ได้แก่ Starbuck (คาด USD0.97 Vs USD0.81) Conoco Phillips (คาด USD2.1 Vs USD3.6) ฯลฯ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้สะท้อนความคาดหวัง EPS Growth ในระดับสูงอยู่แล้ว (สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ถึง 10%) ดังนั้น หากผลประกอบการหุ้นสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด อาจทำให้ไม่มี Positive surprise ต่อตลาดสูงมาก แต่ในทางกลับกัน หากผลประกอบการผิดคาดจะเป็น Negative surprise ที่รุนแรงต่อตลาด ส่วนบจ.ไทย จับตารายงานผลการดำเนินงานของ PSL คาดรายงานกำไร -90% YoY, -52.4% QoQ เป็น 136 ล้านบาท และ SCCC คาดรายงานกำไร -17.4% YoY, -24.1% QoQ เป็น 498 ล้านบาท โดยผลกำไรที่ดีหรือแย่กว่าคาด จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัวและหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกัน
*BOE Meeting: ตลาดคาด BOE คงดอกเบี้ยต่อเนื่องที่ระดับ 5.25% หลังจากสร้าง Surprise ตลาดด้วยการไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 0.25% เป็น 5.5% ในการประชุมครั้งล่าสุด เนื่องจากระดับเงินเฟ้อเริ่มชะลอลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายของธนาคารกลาง ผนวกกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจชะลอตัวมีความเป็นไปได้สูงขึ้น เราคาดว่าการคงดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว จะส่งผลต่อทิศทางค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น จากแนวโน้มเฟดมีโอกาสสูงกว่าธนาคารกลางอื่น ๆ ที่จะมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้อีกครั้ง
+US Factory Orders เดือน ก.ย.: Consensus คาดปรับสูงขึ้น +1.9% MoM ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ +1.2% MoM ในเดือน ส.ค. และมีโอกาสสูงขึ้นกว่าคาด อิงกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 3Q23 GDP Growth +4.9% QoQ สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตแข็งแกร่ง
-EU รายงานภาคการผลิตเดือน ต.ค.: คาดหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดรอบ 3 เดือนที่ 43 (Vs เดือน ก.ย. 43.4) ซึ่งเข้าสู่สภาวะหดตัว (ต่ำกว่า 50 จุด) เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน สะท้อนเศรษฐกิจอียูมีความเสี่ยงเชิงลบ และเข้าสู่ภาวะ Stagflation Economy
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำเก็งกำไรผลประกอบการเติบโตดี SUSCO ERW HANA
Strategic daily picks
SUSCO ปิด 4.44 บาท/แนวรับ 4.36 บาท แนวต้าน 4.60 บาท
SUSCO ร่วมทุนกับ SINOPEC (HK) Ltd ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ SINOPEC (บริษัทน้ำมันรายใหญ่จากประเทศจีน) เพื่อดำเนินธุรกิจในไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท ไซโนเปค ซัสโก้ จำกัด โดยจะดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในนาม SINOPEC SUSCO ซึ่งได้เปิดสถานีบริการน้ำมันแห่งแรกที่สาขารัชดาภิเษก ส่วนสถานการณ์ยอดขายน้ำมันคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นใน 4Q23 ตามการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ บริษัทคงประมาณการรายได้ปี 2023 ไว้ที่กว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 412 ล้านบาท และมูลค่าเหมาะสมที่ 4.65 บาท
ERW ปิด 5.15 บาท/แนวรับ 4.96 บาท แนวต้าน 5.55 บาท
คาดผลการดำเนินงาน 3Q23 เติบโตต่อเนื่องทั้ง QoQ, YoY หนุนจากอัตราการจองห้องพัก (OCC) เฉลี่ยตั้งแต่ต้นไตรมาส-ปัจจุบัน ทรงตัวที่ราว 80% จากรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (ADR) ทรงตัวในระดับสูงกว่า ADR ในช่วงปี 2019 ได้ต่อเนื่อง ขณะที่ 4Q23 เข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยวไทย หนุนรายได้โรงแรมกลุ่มบัดเจ็ท (Hop Inn) ทำให้ OCC เฉลี่ยทั้งปี 2023 สูงกว่า 80% โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q23 และปี 2023 ที่ 147.78 ล้านบาท และ 724.86 ล้านบาท ตามลำดับ และมูลค่าเหมาะสมที่ 6.09 บาท
HANA ปิด 53.00 บาท/แนวรับ 51.25 บาท แนวต้าน 55.50 บาท
ประเมินแนวโน้มยอดขายผลิตภัณฑ์แผงวงจร PCBA ใน 3Q23 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง และแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบใน 3Q23 ผ่อนคลายลง นอกจากนี้ ยังคงให้ความสนใจในการลงทุนใหม่ ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับธุรกิจ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q23 และปี 2023 ที่ 707.17 ล้านบาท และ 2.26 พันล้านบาท ตามลำดับ และมูลค่าเหมาะสมที่ 66.39 บาท







