วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CENTEL ประมาณการกำไร 3Q66F : เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

ในแง่ สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A ต่อยอดขาย) คาดลดลงทั้ง YoY และ QoQ เพราะไม่มีรายจ่ายก้อนใหญ่ช่วงก่อนเปิดโรงแรมแห่งใหม่เหมือนใน 2Q66 (ที่ 77 ล้านบาท) ย่างไรก็ตาม เราคาดดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 60% YoY และ 8% QoQ เป็น 295 ล้านบาท

 

ผลการดำเนินงานของโรงแรมที่กรุงเทพและญี่ปุ่นแข็งแกร่งช่วยหนุนธุรกิจโรงแรม

ธุรกิจโรงแรม : คาด RevPar เพิ่มขึ้น 44% YoY และ 11% QoQ อยู่ที่ 3,091 บาท ส่วน Occupancy rate สูงขึ้นอยู่ที่ 68% (+16ppts YoY และ +3ppts QoQ) ท่ามกลางโรงแรมที่กรุงเทพมี occupancy rate อยู่ที่ 77% (เทียบกับ 78% ใน 3Q62) สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ที่โอซากามี occupancy rate น่าประทับใจอยู่ที่ 67% ในไตรมาสนี้และคาดเพิ่มขึ้นสูงกว่า 70% ใน 4Q66F ในขณะที่ ARR สูงขึ้น 10% YoY และ 5% QoQ จาก ARR ของโรงแรมในประเทศไทยแข็งแกร่ง รวมทั้งผลบวกจากอัตราห้องพักของโรงแรมที่ญี่ปุ่นสูงอยู่ที่ 6,582 บาท ส่วนทางกับ ARR ของโรงแรมที่มัลดีฟส์ลดลงมากกว่า 20% YoY และ QoQ เนื่องจากมีการแข่งขันสูง

ธุรกิจร้านอาหาร : คาด Same store sales (SSS) ทรงตัวในไตรมาสนี้ ขณะที่ total system sale (TSS) growth ขยายตัว 4% ผลักดันจากการเปิดสาขาแห่งใหม่ใน brand หลัก ๆ และยอดขาย เครื่องดื่มหลากหลาย brand อาทิเช่น อาริกาโตะ (Arigato) เป็นต้น

คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ ใน 4Q66F

เราคาดโมเมนตัมของกำไรเป็นบวกต่อเนื่องใน 4Q66F เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวที่มัลดีฟส์และญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม จากที่การท่องเที่ยวของไทยได้รับผลลบจากการลดลงของจำนวนนักเที่ยวชาวจีน ทำให้อาจมีความเสี่ยงด้านลบ (downside risk) ต่อสมมติฐานประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F ของเราที่ 1.63 พันล้านบาท ทั้งนี้ กำไร 9M66F คิดเป็น 56% ของประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเรา

Valuation & action

เราคงคำแนะนำ ซื้อ CENTEL ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 56.00 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 14.6x หรือเท่ากับ +0.5S.D) ทั้งนี้ CENTEL ยังเป็นหนึ่งหุ้นเด่นในกลุ่มโรงแรมที่เราศึกษา เนื่องจากมีโมเมนตัมของกำไรเป็นบวกทั้งใน 2H66F และปี 2567F

 

Risks

ความไม่สงบทางการเมือง และ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว