วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเปิดโดดลงในแดนลบ ราว -12 จุด ปรับตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.9% ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี ประกอบกับความกังวลสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส

โดยมีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และขนส่ง เป็นต้น ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,423.04 จุด -14.81 จุด -1.03% มูลค่าการซื้อขาย 36,493 ลบ. ต่างชาติ -1,896.73 ลบ. TFEX -15,833 สัญญา ตราสารหนี้ -1,312.79 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ +1.2% ปิดที่ 89.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะส่งผลให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น
+ แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า GDP สหรัฐขยายตัว 5.4% ใน 3Q66 หลังจากมีการขยายตัว 2.2% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
+ อิสราเอลจะไม่ปิดกั้นความช่วยเหลือที่ส่งเข้าสู่ฉนวนกาซาผ่านทางประเทศอียิปต์ แต่จะไม่อนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือแก่กลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของปาเลสไตน์ หลังจากรัฐบาลอิสราเอลหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐซึ่งพยายามเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันคลี่คลายวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
+ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังแสดงเจตจำนงเรื่องการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าเป็นการถาวรต่อไปหลังได้ประกาศยกเว้นการยื่นวีซ่าชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวจีน
+ ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.20% ในวันนี้ (20 ต.ค.) คาดการณ์ของตลาด

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 250.91 จุด หรือ -0.75% หลังจากนาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี
 

- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 198,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 ราย
- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแจ้งเตือนชาวอเมริกันทั่วโลกให้ใช้ความระมัดระวัง ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
- รมช.คลังสั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งมีผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก สถานการณ์เศรษฐกิจโลก จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะขยายวงกว้าง และยืดเยื้อยาวนานหรือไม่

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อ โดยมีแรงกดดันจากเฟด ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ประกอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องยังกดดันตลาด คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,410-1,430 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้รับประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติครม. : HMPRO GLOBAL DOHOME CPALL CPAXT CRC
• นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท : HMPRO ILM COM7 CPALL CPAXT CRC TNP KK
• กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย : BBL KBANK SCB KTB
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BDMS CPALL TOP
• น้ำมันขึ้นจากสงคราม : PTTEP SPRC BCP ESSO

 

หุ้นรายงานพิเศษ

DMT - คาด2H66 ปริมาณการจราจรปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
Bloomberg consensus 14.20 บาท

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

•รายงานรายได้ 1H66 เท่ากับ 1,130 ลบ. +45%YoY และมีกำไรสุทธิ 487 ลบ. +48%YoY สาเหตุมาจากกิจกรรมการเดินทางในประเทศเพิ่มขึ้นและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นหนุนปริมาณการใช้ทางยกระดับเพิ่มเป็น 104,895 คันต่อวัน +42%YoY

•ผู้บริหาร ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 66 เติบโต 30% คาดปริมาณการจราจรเฉลี่ย 110,000 คันต่อวัน +29%YoY ขณะที่ปริมาณการจราจรเฉลี่ยเดือนสิงหาคม 108,738 คันต่อวัน +4%MoM โดยได้รับปัจจัยหนุนจากฤดูฝน ทำให้ประชาชนเลี่ยงเส้นทางการจราจรติดขัดจึงใช้ทางยกระดับมากขึ้น

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 2H66 เนื่องจาก 3Q66 เป็นช่วงฤดูฝนคนเลี่ยงเส้นทางการจราจรติดขัด อีกทั้ง 4Q66 เป็นช่วง Peak ของปริมาณการจราจรคาดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.2 แสนคันต่อวัน หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรทั้งปี 66 เท่ากับ 962 ลบ. +23%YoY โดย 1H66 คิดเป็น 49% จากประมาณการทั้งปี ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น +13%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 16 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 55 เท่า ขณะที่ IAA consensus คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 66 เฉลี่ย 9.4% ต่อปีสูงน่าสนใจลงทุนระยะยาว เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) AH (Bloomberg consensus 45.00 บาท) บีโอไออนุมัติลงทุน "Isuzu" ผลิตรถกระบะอีวี AH ชี้โอกาสรับออเดอร์ต่อเนื่อง เหตุเป็นลูกค้ารายใหญ่ สัดส่วน 30% เดินหน้าผลิตชิ้นส่วนให้ Vinfast เจรจารับงานอีวีค่ายรถอื่นๆ มั่นใจปีนี้เติบโต 10-15% มากกว่าอุตสาหกรรม ย้ำปีนี้เป็นปีที่ดีของกลุ่มยานยนต์ ปีหน้าจะเติบโตขึ้นอีก ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถสดใส (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MAJOR (Bloomberg consensus 19.05 บาท) เผย "สัปเหร่อ" กระแสตอบรับดีเกินคาด ทำรายได้มากสุดของปีนี้เกิน 200 ล้านบาท แซงหน้า "Fast & Furious 10" ที่ทำรายได้มากสุดของปีที่แล้ว ขณะที่หนังไทยจ่อเข้าฉายอีกเพียบ เชื่อกระแสตอบรับดีเช่นกัน มั่นใจปีนี้ผลงานตามเป้า แย้ม ไตรมาส 4/2566 งบสดใส ส่วนปีหน้ายังมีหนังต่อคิวหลายเรื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTG (Bloomberg consensus 11.70 บาท) รับอานิสงส์ช่วงหยุดยาว หนุนยอดขายน้ำมัน-กาแฟพันธุ์ไทยพุ่ง ผู้บริหาร "รังสรรค์ พวงปราง" ส่งซิกเข้าช่วงไฮซีซัน ดัน Q4/2566 ฟอร์มแจ่ม แถมเดินหน้าขยายสถานีบริการน้ำมันต่อเนื่องอีก 40 สถานี หวังสยายปีกรับทรัพย์เพิ่ม ย้ำธุรกิจนอนออยล์ปีนี้เติบโต 75-85% เล็งดันพันธุ์ไทยเข้าตลาด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CEYE (ราคาเหมาะสม 7.00 บาท) คิดการใหญ่ลงทุน "ไวท์ ไลท์ สตูดิโอ" 30% ขยายฐานสู่กลุ่มภาพยนตร์ ด้านแม่ทัพหญิง "สุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์" ชี้ท้ายปีมีงานต่อเนื่อง กางแผนผนึกพาร์ตเนอร์ขยายตลาดซีรีส์ ส่งซิกภาพปี 2567 เล็งหาเครื่องมือใหม่ AI เสริมทัพ คอนเฟิร์มผลงานปีนี้โต 20% (ที่มา ทันหุ้น)