วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก พักตัว

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวรีบาวนด์ บวกราว 6 จุด หลังจากปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย ตามคาด แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ทำให้นักลงทุนกังวลว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน
โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอาหาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,514.26 จุด +6.36 จุด +0.42% มูลค่าการซื้อขาย 42,099 ลบ.ต่างชาติ +637.32 ลบ. TFEX +21,049 สัญญา ตราสารหนี้ +120.89 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 5-4 ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50%
+ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดการลงทุนของต่างชาติ เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศได้ตกต่ำลงตามจำนวนประชากรที่ลดน้อยลง
+ บอร์ด รฟท.อนุมัติลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงเหลือไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย เตรียมจัดทำแผนเสนอคมนาคมคลัง-ครม. มั่นใจประชาชนได้ประโยชน์ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
+ รมว.คมนาคม ประกาศเดินหน้าสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้าน สั่ง สนข.ศึกษาให้รอบคอบ เหตุโครงการมูลค่าสูง พร้อมเตรียมโรดโชว์ดึงต่างชาติร่วมทุน ลุ้นชง ครม.เคาะเปิดประมูลปี 68
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 370.46 จุด ลดลง -1.08% กังวลว่า FED จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3 เซนต์ -0.1% ปิดที่ 89.63 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมัน WTI ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากข่าวรัสเซียประกาศระงับส่งออกน้ำมันทั่วโลกเป็นปัจจัยหนุนตลาดในระหว่างวัน
- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ลดลง 0.4% ในเดือนส.ค. หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนก.ค.บ่งชี้แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
- สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาเตรียมปรับลดจำนวนนักการทูตในอินเดียด้วยข้อกังวลด้านความปลอดภัย ท่ามกลางข้อพิพาททางการทูตที่รุนแรงมากขึ้น หลังจากที่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวหาอินเดียว่าอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารผู้นำชาวซิกข์ในแคนาดา
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์สำเร็จรูปรวมทุกประเภทในเดือน ส.ค.66 อยู่ที่ 150,657 คัน ลดลง 12.27%YoY ขณะที่ 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) อยู่ที่ 1.22 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.13%YoY เนื่องจากการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟด จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้าระทบตลาด กรอบดัชนีในวันนี้ 1,505 -1,520 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น mai ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว : SPA AU D RP
• ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น : KBS KSL KTIS BRR
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD
• ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT BCP TOP
• หุ้นเสียประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : GPSC BGRIM EA SSP
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : CPALL CRC HMPRO
หุ้นรายงานพิเศษ
GABLE - "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 7.45 บาท)
คาด 2H23 ผลการดำเนินงานเร่งตัว HoH
•งวด 2Q23 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 60 ลบ. ทรงตัว YoY, +143%QoQ มีรายได้รวมเท่ากับ 1,232 ลบ. +6%YoY, +8%QoQ โดยมีสาเหตุหลักจากการเติบโตของรายได้กลุ่มธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระดับองค์กร (Digital Transformation) และรายได้จากธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม มี %GPM เท่ากับ 20.9% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY, QoQ จาก 19.8% ใน 2Q22 และ 19.4% ใน 1Q23 โดยช่วง 1H23 บริษัทมีรายได้รวม 2,370 ลบ. +6%YoY และมีกำไรสุทธิ 85 ลบ. +5%YoY
•บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 23 เติบโต 5-15%YoY โดยสิ้นงวด 2Q23 บริษัทมี Backlog ราว 4.1 พันลบ. โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 2H23 ราว 1.9 พันลบ. และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 24-25 และบริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 18-22%
•ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานปี 23 จากการเติบโตของรายได้กลุ่มธุรกิจ Digital Transformation และธุรกิจ Software Platform โดยรายได้ช่วง 2H23 จะเติบโตเร่งตัวขึ้น HoH เนื่องจากการทยอยส่งมอบงานในช่วงครึ่งหลังของปี โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรปี 23 ราว 305 ลบ. +14%YoY และปี 24 ราว 362 ลบ. +19%YoY ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 7.45 บำท มี upside ถึง 38% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) KJL (Bloomberg consensus 12.40 บาท) กางแผนธุรกิจปี 2567 คาดรายได้โต 10-15% ปั๊มผลงานนิวไฮต่อ รับปัจจัยหนุนเร่งอัพกำลังผลิตได้ตามแผน 27 ล้านชิ้น คาดสิ้นปีแตะ 30 ล้านชิ้น ส่งซิกออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง มองรัฐหนุนเมกะโปรเจ็กต์ดันโครงการก่อสร้างแน่น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CRC (Bloomberg consensus 49.70 บาท) หั่นเป้ารายได้ปี 2566 เหลือเติบโต 8-10% และ EBITDA ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่ระดับ 13-15% สอดรับตามเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ปรับงบลงทุนลงเหลือ 2-2.3 หมื่นล้านบาท กางแผนเปิดสาขาใหม่ครึ่งปีหลัง และลุยธุรกิจใหม่ "GO Wholesale“ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) INET (Bloomberg consensus 6.00 บาท) มั่นใจผลงานไตรมาส 3/2566 เติบโตต่อเนื่อง มุ่งลงทุนในบริการ Platform ต่างๆ ขยายกลุ่มลูกค้าคุณภาพ ล่าสุดเร่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทดแทนพึ่งพาต่างประเทศ ร่วมกับ แผนบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4/2566 ยังคงแผนที่จะขยายสินทรัพย์กองทรัสต์ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) RAM (Bloomberg consensus 49.25 บาท) “รพ.รามคำแหง” ส่งซิกไตรมาส 3/66 เติบโต รับไฮซีซั่นธุรกิจหนุนผู้ป่วยแน่น-โรคประจำฤดูเพิ่มขึ้น ขณะที่ไตรมาส 4/66 ขยายตัว ดันรายได้ รพ.รามคำแหง ครึ่งปีหลังไม่ต่ำกว่า 4,700 ล้านบาท เผยรพ.วิภาราม ผู้ป่วยประกันตนพุ่ง 5.24 แสนราย บวกกับ รพ.เชียงใหม่ ราม โตโดดเด่น (ที่มา ข่าวหุ้น)