วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ มุมมองดอกเบี้ยของกรรมการเฟดรายบุคคล

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตลาดให้ความสำคัญ คือ ความเห็นหรือถ้อยแถลงที่บ่งชี้ถึงเส้นทางดอกเบี้ยในอนาคต โดยเฉพาะโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ซึ่งจากมุมมองดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล (Dot plot) ซึ่งในรอบการประชุมมิ.ย.66 อยู่ที่ 4-5 ครั้ง หาก Dot plot ใหม่มีระดับดอกเบี้ยสูงขึ้น หรือการปรับลดดอกเบี้ยที่ลดลง ตลาดอาจตอบรับระยะสั้นเป็นลบ

 

อาจต้องระวังผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในระดับสูงจะลดทอนความน่าสนใจของการลงทุนในระยะสั้น คำถามสำคัญของนักลงทุนตอนนี้ คือ ดอกเบี้ยสหรัฐฯจะเริ่มลดเมื่อไหร่และด้วยอัตราเร็วแค่ไหน? ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้บรรยากาศลงทุนโดยภาพรวมผ่อนคลาย ทั้งนี้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ผลตอบแทนทั่วโลกขยับสูงตามและทำให้ความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น (Earning yield gap = Earnings yield – Bond yield) ลดลง และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งการที่ตลาดจะปรับดีขึ้นต้องเกิดกลไกลข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อรวมกัน ได้แก่ 1) มุมมองดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายลง 2) กาปรับเพิ่มประมาณการกำไรบจ. กรณีเฝ้าระวัง คือ หากผลตอบแทนพันธบัตรยังขยับขึ้นและกำไรถูกปรับลดลง ตลาดอาจผันผวนหรือปรับฐานได้
 

ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมยังไม่เสียหากไม่หลุด 1,520 จุด ยังเน้นเลือกลงทุนรายตัว  กลุ่มทีน่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีหรือดีต่อเนื่อง ได้แก่ พลังงาน ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และธนาคารใหญ่ (ทางกลยุทธ์มอง KBANK และ BBL ที่มี SME เยอะ อาจบวกมากกว่ากลุ่ม) 3) หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // หุ้นเด่นที่เราชอบในช่วง ก.ย.-ธ.ค. ได้แก่ PTTEP, TOP, PTG, OR / CPAXT, TIDLOR / AOT, AWC, SPA / CPN, AP

หุ้นแนะนำ: TRUE*, COM7*, SPRC*, MENA*

แนวรับ: 1,520 / แนวต้าน : 1,535 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ยูโรโซนเผยเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดเล็กน้อย - ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของยูโรโซนอยู่ที่ 5.2% yoy ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 5.3% yoy โดยตัวเลขที่ปรับขึ้นเป็นผลจากราคาสินค้าภาคบริการ อีกทั้ง เพิ่มขึ้น 0.5% mom ต่ำกว่าระดับคาดการณ์เล็กน้อยที่ 0.6% mom ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 5.3% yoy และ 0.3% mom เป็นไปตามประมาณการ 
 

ต่างชาติเข้าไทยต้นปี-กลางก.ย.ทะลุ 19 ล้านคน – สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวไทยและต่างชาติแล้วกว่า 1.3 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และรัสเซีย โดยสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยจะเริ่มมีสัญญาณการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากการประกาศยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน

SJWD มาร์จิ้นเขยิบ - เผยราคาน้ำมันดีเซลลดต่ำกว่า 30 บาท ส่งผลดีโลจิสติกส์ ด้านผู้บริหารชูมีสัดส่วนลูกค้ารายย่อย 20% ได้รับผลดีจากดีเซลที่ลดลง ขณะที่ธุรกิจห้องเย็นไฟรับเต็มค่าไฟฟ้าหล่นเหลือหน่วยละ 3.99 บาท ท่ามกลางไฮซีซัน 4Q23

ASW-TITLE รับท่องเที่ยวภูเก็ตคึก – ขานรับรัฐบาลใหม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยภาคการท่องเที่ยว ฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน เชื่อตลาดท่องเที่ยวปลายปีนี้คึกคัก หนุนตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตโดดเด่น เตรียมเปิดคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,150 ล้านบาท ได้แก่ THE TITLE LEGENDARY BANGTAO มูลค่า 3,750 ล้านบาท และ THE TITLE LEGENDARY NAIYANG มูลค่า 1,400 ล้านบาท รับกำลังซื้อไฮซีซั่น

 

ประเด็นติดตาม: 18-24 ก.ย. BOI โรดโชว์พบนักลงทุนสหรัฐฯ/ 21 ก.ย. – Fed Interest Rate Decision, US Existing Home Sales, Initial jobless claims/ 27 ก.ย. ประชุม กนง. ซึ่งธปท.จะมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ลง 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)