วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา สุนทรพจน์ประธานเฟดและตัวเลขส่งออกไทย

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา สุนทรพจน์ประธานเฟดและตัวเลขส่งออกไทย

ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้าน 1,570 จุด แนวรับ 1,550/1,540 จุด โดยบริเวณแนวต้านสำคัญ 1,570 จุด (EMA 200 วัน) และ 1,580 จุด (แนวต้านของ Up Channel) จะเป็นจุดพิจารณาขายล็อกกำไรระยะสั้น

หากดัชนีฯ ระหว่างวัน เริ่มส่งสัญญาณเตือนการกลับตัว (จุดสูงสุด เริ่มต่ำลง ในการซื้อขายระหว่างวัน)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา สุนทรพจน์ประธานเฟดและตัวเลขส่งออกไทย

 

Event สำคัญวันนี้คือ

1. สุนทรพจน์ของประธานเฟดในงานสัมมนาที่เมืองแจ็คสันโฮล: โดยตลาดคาดว่าจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมต่อมุมมองเงินเฟ้อและวิธีการทำให้เงินเฟ้อชะลอลงมาที่กรอบเป้าหมาย รวมถึงทิศทางการปรับขึ้นหรือสิ้นสุดวงจรดอกเบี้ย ทั้งนี้ เราคาดว่าสัญญาณเชิงลบต่อตลาดการเงินและตลาดหุ้นโลกจะเกิดขึ้น หากเฟดส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยยังคงอยู่ในลักษณะ Higher For Longer เพื่อแก้ปัญหา Sticky Inflation (คาดว่าจะทำให้ยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาว ปรับขึ้นต่อเนื่อง และเป็นผลลบต่อตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาระต้นทุนการเงินบจ. ปรับสูงขึ้น รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจจะชะลอตัวจากภาวะ Credit Crunch และส่งผลทางอ้อมต่อ Valuation (De-Rate PER) ขณะที่การแข็งค่าของค่าเงิน USD จะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) และตลาดหุ้นเอเชีย ที่มีความเสี่ยง FX Risks ปรับสูงขึ้น)

2. ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ จับตาตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ค. ทั้งนี้ ภาคส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง: โดย 2Q23 ส่งออกไทย หดตัวมากขึ้นเป็น -6.2% YoY (Vs -4.5% YoY ใน 1Q23) ทำให้ใน 1H23 ส่งออกไทยหดตัวเฉลี่ย -5.3% YoY ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับประมาณการของธปท. ที่ -0.7% YoY ขณะที่คาดการณ์เดือน ก.ค. มีความเสี่ยงหดตัวต่อเนื่อง โดย KTX คาด -8.3% YoY (Vs -6.4% YoY ในเดือน มิ.ย.) ขณะที่ Consensus คาดว่าการส่งออกไทยเติบโต -0.75% YoY ส่วนนำเข้าหดตัวแรง -8.1% YoY ส่งผลดุลการค้าไทยเดือน ก.ค. คาดขาดดุล -USD1.3bn. ลดลงเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ที่เกินดุลเล็กน้อย +USD0.06bn. (Figure 1) ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ จับตา US รายงานดัชนีวัดความเชื่อมั่น Michigan Consumer Sentiment เดือน ส.ค. Final คาดลดลงเป็น 71.2 (Vs เดือน ก.ค. 71.6) และ Germany รายงาน 2Q23E GDP Growth ครั้งสุดท้าย คาดเติบโต +0% QoQ, -0.2% YoY (Vs 1Q23 GDP -0.1% QoQ, -0.2% YoY)

 

กลยุทธ์ลงทุน เก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวก SPVI (Apple เปิดตัว iPhone 15 ในช่วงกลางเดือน ก.ย.) SNNP (โมเมนตัมบวกทางเทคนิคและผลการดำเนินงานเติบโตดี) KCE (กระแสซื้อหุ้นชิป)

 

 

Strategic daily picks

SPVI     ปิด 5.25 บาท/แนวรับ 5.05 บาท แนวต้าน 5.65 บาท

SPVI คาดแนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการ 3Q23 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะไตรมาส 3 เป็นช่วงการเปิดเรียน ส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มสถานศึกษาหรือมหาวิทยาลัยปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทคาดว่าใน 2H23 จะดีกว่า 1H23 เพราะใน 2H23 จะมีสินค้าออกใหม่ อาทิ iPhone 15 ที่จะช่วยผลักดันยอดขายในช่วงที่เหลือให้เติบโตเพิ่ม ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีสาขารวม 81 สาขา Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 687 ล้านบาท พร้อมประเมินราคาเป้าหมาย 5.30 บาท

 

SNNP    ปิด 22.20 บาท/แนวรับ 21.50 บาท แนวต้าน 23.10 บาท

SNNP ปรับลดยอดขายปี2023 ลงเป็น 850-900 ล้านบาท ในปี 2023 (เดิมเป้าต้นปี 2023 ตั้งไว้ที่ 1 พันล้านบาท) เนื่องจากความล่าช้าของเฟสการผลิตเบนโตะราว 1 เดือน KTX คงประมาณการกำไร 3 ปีข้างหน้าจะโตเฉลี่ย 22% ต่อปี จาก 516 ล้านบาท ในปี 2022 เป็น 944 ล้านบาท ในปี 2025 พร้อมประเมินราคาเป้าหมายที่ 26.25 บาท

 

KCE    ปิด 50.75 บาท/แนวรับ 48.50 บาท แนวต้าน 53.00 บาท

KCE คาดอัตรากำไรขั้นต้นใน 2H23 ปรับตัวดีขึ้น จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเป้าหมายที่ระดับ 22-24% รวมทั้งยังประเมินแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นจะดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2024 ตามยอดขายที่สูงขึ้น พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2024 ที่ 26-27% Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q23 และปี 2023 ที่ 390 ล้านบาท และ 1.8 พันล้านบาท ตามลำดับ พร้อมประเมินราคาเป้าหมาย 49.29 บาท

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา สุนทรพจน์ประธานเฟดและตัวเลขส่งออกไทย