วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ หากไม่พลิกโผจะเป็นบวกต่อบรรยากาศลงทุน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ หากไม่พลิกโผจะเป็นบวกต่อบรรยากาศลงทุน

จับตาการโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีวันนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวความไม่แน่นอนของการโหวตแคนดิเดตตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของคุณเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้ถึงอำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทย ตลอดไปจนถึงความสามารถในการผลักดันนโยบายสำคัญที่หาเสียงไว้

โดยเฉพาะ Digital wallet, การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, การสนับสนุนราคาสินค้าเกษตร ฯลฯ การลงคะแนนในวันนี้จะเป็นการบ่งชี้ถึงผลลัพธืของการต่อรองทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเรามีมุมมองดังนี้ 1) คุณเศรษฐา ได้รับการรับรองให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด ทั้งจากนโยบายที่หารือไว้ และการส่งสัญญาณว่าการต่อรองทางการเมืองเฉพาะหน้าได้จบลงแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาด หุ้นในกลุ่มการเงิน (Finance) และกลุ่มหุ้นเกี่ยวข้องกับการเมือง 2) คุณเศรษฐา ไม่ได้รับการรับรอง จะเป็นปัจจัยลบกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ตลาดจะกลับมากังวลการใช้จ่ายงบประมาณที่ล่าช้าซ้ำเติมภาพการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ หลังสภาพัฒน์ปรับลดเป้าการเติบโตเศรษฐกิจไทย (GDP) ปีนี้เหลือ 2.75% จากเดิม 3.2% จากการชะลอตัวของการใช้จ่ายภาครัฐฯ

ปัจจัยภายนอกติดตามการประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐฯ และแผนแก้ปัญหาเศรษฐกิจของจีน ติดตามการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ Jackson Hole ที่คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญๆ อาทิ สหรัฐฯ, ยุโรป และญี่ปุ่น ขณะเดียวกันติดตามการดำเนินนโยบายของรัฐบาลจีน และธนาคารกลางจีนในการแก้ปัญหาวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุน
 

ภาพรวมกลยุทธ์: แม้บรรยากาศลงทุนระยะสั้นเป็นบวก แต่ยังระวังแรงกดดันจากการขายทำกำไรในตลาดหุ้นโลกอาจมากระทบบรรยากาศลงทุนหุ้นไทย กลุ่มที่น่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีหรือดีต่อเนื่อง 3) หุ้นที่มีปัจัยบวกเฉพาะตัว 4) กลุ่มไฟแนนซ์ จากความหวัง Digital wallet เพิ่มความสามารถในการชำระหนี้

หุ้นแนะนำ: TIDLOR*, CPF*, PTG*, BAM*

แนวรับ: 1,500-1,515 / แนวต้าน : 1,535-1,545 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

สภาพัฒน์ปรับลด GDP ไทย – โดยปีนี้เหลือโต 2.5-3% จากเดิม 2.7-3.7% หลังส่งออกดิ่งต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดเหตุประเทศคู่ค้าหลักยังไม่ฟื้น ด้าน 3 กรมจัดเก็บภาษีจ่อปรับเป้าการจัดเก็บฯ ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่หดตัวลง

TLI ชูกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง - ครอบคลุมทั้งประเภทประกันชีวิตควบการลงทุนและประกันแบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล เพื่อให้ VONB เติบโตได้ตามเป้าที่ 10% ย้ำกระจายพอร์ตการลงทุนอย่างระมัดระวังเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น 

 

CKP รับอานิสงส์ฤดูฝน - ผู้บริหารมอง 3Q23 ดีกว่าไตรมาสก่อน รับอานิสงส์บวกจากปัจจัยฤดูกาล ทำให้ปริมาณน้ำฝนในอ่างกักเก็บปรับตัวเพิ่มขึ้น ดันปริมาณการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ชี้ครึ่งปีหลังส่วนแบ่งกำไรปรับตัวดีขึ้นตามต้นทุนก๊าซที่ลดลง มองการปิดซ่อมบำรุงปิดปรับปรุง Terbine น้ำงึม 2 จำนวน 1 ยูนิต ไม่กระทบต่อผลการดำเนินงาน ระบุยังบริหารจัดการได้ดี PTTEP

โยกเงินลงทุนกลุ่มอาเซียน – โดยทยอยขายแหล่งก๊าซฯ ในออสเตรเลีย ล่าสุดเซ็นสัญญาขายแปลงสัมปทาน AC/RL7 (โครงการแคช-เมเปิล) หมดทั้ง 100% ธุรกรรมเสร็จสิ้นภายในปีนี้ หวังลดค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ พร้อมโยกเงินลงทุน เมียนมา มาเลย์ เวียดนาม และอินโดฯ ผู้บริหารมั่นใจยอดขายปิโตรเลียมปี 66 ทะลุ 4.7 แสนบาร์เรลต่อวัน

หุ้นที่น่าสนใจทางเทคนิค: TCAP, DMT, ERW, BCH, BJC, BA, MC, AUCT

 

ประเด็นติดตาม: 22 ส.ค. – US Exitsting Home Sales/ 23 ส.ค. – EU HCOB PMI, US Building Permits, New Home Sales, S&P Global PMI, TH Exports

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)