วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เคลื่อนไหวตามแนวโน้มผลประกอบการ

สาเหตุจาก 1) NASDAQ100 ทำ Special Rebalancing เพื่อให้ Magnificent Seven ที่มีสัดส่วน 55% เหลือเพียง 45% มีผลก่อนการเทรดวันที่ 24 ก.ค. โดยหุ้นที่คาดว่าจะถูกปรับลดน้ำหนัก (-) ได้แก่ AAPL, MSFT, GOOGL, AMZN, NVDA, META, TSLA ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะถูกเพิ่มน้ำหนัก (+) ได้แก่ SBUX, MDLZ, BKNG, GILD, ISRG, ADI, ADP และ 2) US equity options ที่จะหมดอายุในวันนี้ (21 ก.ค.) ผลของการปรับลดน้ำหนักดังกล่าวประกอบกับ TSMC ให้มุมมองการเติบโตที่ไม่สดสด จะเป็นปัจจัยถ่วงบรรยากาศลงทุนในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความสัมพันธ์สูงกับหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

 

สัปดาห์หน้าติดตาม ประชุมเฟด / การโหวตนายกฯ / ผลประกอบการกลุ่ม ประเด็นติดตามที่สำคัญ ได้แก่ 1) การประชุมเฟด 26 ก.ค. มีโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้าย ติดตามการส่งสัญญาณมุมมองดอกเบี้ย 2) การประชุมสภา 27 ก.ค. เราประเมินมีโอกาสที่การเมืองจะเกิดความชัดเจนในการประชุมรอบนี้ คาดเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่มีความไม่ชัดเจนว่าก้าวไกลจะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน 3) การรายงานผลประกอบการบจ. อาทิ 25 ก.ค. HMPRO / 26 ก.ค. SCC / 27 ก.ค. GLOBAL, ITC และ TRUE //  โดยรวมหุ้นปิโตรเคมี ยังต้องระวังแนวโน้มภาวะอุปทานล้นเกินที่เกิดในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้การฟื้นน่าจะเป็นเพียงระยะสั้น 

 

 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวโดยไม่ควรหลุด 1,510 จุด กลุ่มอิงปัจจัยภายนอกเด่นในระยะสั้นจากความกังวลการเมืองยืดเยื้อกดดันหุ้นบริโภคและท่องเที่ยว แต่กลุ่มอิงภายนอกที่ดีต่อในครึ่งหลังมีแค่พลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น ขณะที่ปิโตรเคมีจะแย่ยาว ทำให้เหมาะแค่การเก็งกำไรยังไม่เน้นถือยาว

หุ้นแนะนำ: TOP*, BAM*, SORKON*, ASW*

แนวรับ: 1,510 / แนวต้าน : 1,535 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

รัสเซียถอนตัวดีลทะเลดำ - การถอนตัวของรัสเซียออกจากข้อตกลงเปิดเส้นทางส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทางทะเลดำนั้นได้ซ้ำเติมวิกฤติความไม่มั่นคงทางอาหาร และอาจผลักดันให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ประเทศที่มีรายได้ต่ำ 

เปิดฉากเอลนีโญคาดภาคเกษตรไทยปีนี้เสียหายราว 4.8 หมื่นลบ. - มูลค่าความเสียหายในปี 66 ราว 48,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นความเสียหายในข้าวเป็นหลักที่ 37,631 ล้านบาท (80% ของความเสียหายภาคเกษตรทั้งหมด) ทั้งนี้ หากพิจารณาเทียบความเสียหายจากภัยแล้งที่มีต่อข้าวในอดีต พบว่า ภาพรวมความเสียหายของข้าวในปี 66 น้อยกว่าในปี 58 ที่เกิดภัยแล้งรุนแรง ทั้งในเชิงมูลค่า และปริมาณผลผลิตข้าวที่เสียหาย แต่มากกว่าปี 63 ที่เกิดภัยแล้งล่าสุด

ฟิทช์คงอันดับเครดิตหุ้นธนาคารใหญ่ – ฟิทช์คงอันดับเครดิต BBL (BBB และ AA+(tha)), KBANK (BBB และ AA+(tha)), , TTB (BBB และ AA+(tha)), SCB และ SCBX (BBB และ AA+(tha)), KTB (BBB+ และ AAA(tha)) โดยทั้งหมดมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
 

พิษ STARK ทำเหตุ ทริสเข้มจัดเครดิต – ทริสเรทติ้งลั่นตรวจเข้มบจ.ก่อนรับจัดอันดับเครดิต หลัง “สตาร์ค” แผลงฤทธิ์ และหากเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงไม่รับทำเครดิตเรตติ้ง ประเมินบจ.ออกหุ้นกู้ปี 66 ลดลงจากปีก่อน ด้านผู้ถือหน่วยกองทุนที่ลงทุนในหุ้นสตาร์ค ร้องก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหารกองทุนทำให้เสียหาย

 

ประเด็นติดตาม: 24 ก.ค. – EU HCOB PMI, US S&P Global PMI  / 25 ก.ค. – US CB Consumer Confidence / 26 ก.ค. – US New Homes Sales, Fed Interest Rate Decesion      

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)