วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (13 ก.ค. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (CPI) เดือน มิ.ย. ปรับลดลงมาอยู่ที่3% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.1% และลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.0% ส่งผลให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ใกล้จะสิ้นสุดวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

+ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลดลง 1.02% แตะระดับ 100.56 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 64  ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาถูกลง

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 7 ก.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลสู่ระดับ 458.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.5 ล้านบาร์เรล

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการนำเข้าน้ำมันเบนซินของเม็กซิโกจากภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงฤดูกาลขับขี่

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดูไบ หลังการซื้อขายในตลาดสำหรับคาร์โก้เดือน ส.ค. คึกคักมากขึ้น โดยมีการซื้อ-ขายเป็นพรีเมียมจากราคากลาง ขณะที่ตลาดคาดว่าผู้ผลิตในเกาหลีใต้อาจชะลอการส่งออกในช่วงนี้และจับตาดูการใช้นโยบายภาษีน้ำมันในประเทศ