วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก อ่อนตัว

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก อ่อนตัว

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรง ราว -20 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากความกังวลว่าเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการโหวตนายกในสัปดาห์หน้า

แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก พลังงาน และธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,490.46 จุด -18.41 จุด -1.22% มูลค่าการซื้อขาย 45,718 ลบ.ต่างชาติ -3,164.84 ลบ. TFEX -14,678 สัญญา ตราสารหนี้ +541.26 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ +0.01% ปิดที่ 71.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
+ ก.พาณิชย์ รายงาน 5 เดือนไทยส่งออกกุ้งสดแช่เย็น-แช่แข็งไปตลาดคู่ค้า FTA โต 27% ผลงานปี 65 ติดอันดับ 9 ของโลก อันดับ 3 ของอาเซียน
+ ThaiBMA กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ตลาดตราสารหนี้ไทยขยายตัวต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 มีมูลค่าเท่ากับ 16.4 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.1% จากสิ้นปีที่แล้วเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ
+ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือน มิ.ย.พบว่าค่าดัชนีในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 81.62 ปรับขึ้น 5.1% จากเดือนก่อนหน้ากลับมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวโดยนักลงทุนมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 366.38 จุด หรือ -1.07% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นหลังจากมีรายงานข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเฟด จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก
- ADP เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
 

 

 

- ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.4 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. แต่ค่าดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการชะลอตัว
- สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าภาคสินค้าและบริการของสหรัฐลดลง 7.3% สู่ระดับ 6.90 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. จากระดับ 7.44 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
- สมาคมตราสารหนี้ไทยเผยครึ่งปีแรกเอกชนขายหุ้นกู้ 6 แสนล้านบาท เชื่อทั้งปีขายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท มูลค่าคงค้างปลายมิ.ย. 66 16.4 ล้านล้านบาท +3.1%YTD ระบุกรณีหุ้น STARK ส่งผลให้หุ้นกู้เรทติ้งตั้งแต่ BBB ระดมทุนยากเพราะนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น
- กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าเป็นห่วงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงส่งผลกระทบต่อกาลังซื้อและการบริโภค

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันจากความวิตกกังวลว่าเฟด จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก ประกอบกับการเมืองในประเทศที่ยังมีทิศทางไม่แน่นอน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,480-1,495 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• สินค้าส่งออกเดือน พ.ค. ที่ยังขยายตัวได้ดี : SNC AH SAT HANA KCE PDJ
• ค่าระวางเรือขึ้นจากคลองปานามา หุ้นได้ประโยชน์ PSL TTA RCL
• 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

SFLEX (Bloomberg Consensus 5.25 บาท)
SPV ช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว

•คาดว่าผลประกอบการ 2Q66 เติบโตต่อเนื่อง จากปริมาณออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น จากใช้กลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และเพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการปี 66 ยังเติบโตได้ดี จากการขยายตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มี Margin สูง ประกอบกับการเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Non-Food และ Medical เนื่องจากมี Demand เติบโตต่อเนื่อง

•นอกจากนี้บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท Starprint Vietnam Joint Stock Company (“SPV”) ซึ่งประกอบธุรกิจการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษในประเทศเวียดนาม เป็นการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ของบริษัทฯ ร่วมกับ SCGP โดย SFLEX และ SCGP จะเข้าถือหุ้นใน SPV ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25.00 และไม่เกินร้อยละ 70.00 ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว

ความเห็น : เรามีมุมมองบวกต่อการเข้าลงทุนใน SPV ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว ประกอบกับเพิ่มโอกาสในการขยายการลงทุนใหม่ๆร่วมกับ SCGP โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้กำไรจาก SPV ได้ในช่วง 2H66 ซึ่งจะเข้ามาไตรมาสละประมาณ 10 ล้านบาท เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) HTC (Bloomberg consensus 48.00 บาท) น้ำโค้กขายดีตลาดภาคใต้บูมการท่องเที่ยวคึกคัก อากาศร้อนหนุน คาดดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้จากปัจจุบันคาดโต 7-9% วางเป้าส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากปัจจุบันที่ 26% รักษาอัตรากำไรไม่ต่ำกว่า 40% มุ่งเน้นสินค้า Zero-Sugar ลั่นรายได้ปี 2570 เกิน 11,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg consensus 4.30 บาท) ทุ่มงบ 221 ล้านบาท ปิดดีลซื้อซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งที่ 2 เจ้าใหญ่ใน UK ตามกลยุทธ์ลุยค้าปลีก-ส่งอาหาร เตรียมบุ๊กรายได้ Q3/2566 คาดว่าร้านค้าปลีกแห่งนี้จะสามารถทำรายได้แตะ 800 ล้านบาท ในปีนี้ ผลงานเติบโตดีปีนี้ ปักธงรายได้ 3.5-3.8 พันล้านบาท ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงรายได้ดีด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg consensus 44.00 บาท) ฟุ้งเปิดภาคเรียนใหม่ นักเรียนทั้งคนไทยและต่างชาติไหลเข้าเพิ่มกว่า 15% หรือมากกว่า 500 คน หนุนยอดนักเรียนรวมสิ้นปี 2566 กระโดดแตะ 3.7-3.8 พันคน ยิ้มกระแสตอบรับโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ นนทบุรี และโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ระยองดี เล็งขยายห้องเรียนที่สาขาประชาอุทิศ ธนบุรี และเชียงใหม่ รองรับการเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AMA (Bloomberg consensus 7.90 บาท) ชี้ครึ่งปีหลังไฮซีซันธุรกิจ ลุยลงทุนเพิ่มรถบรรทุก 40 คันซัพพอร์ตลูกค้า พร้อมบุ๊กเงินขนส่งเต็มที่ในไตรมาส 4/2566 ด้านผู้บริหาร "พิศาล รัชกิจประการ" เชื่อปีนี้วอลุ่มขนส่งแตะ 1.4 ล้านตัน ปักเป้ารายได้โต 12-15% (ที่มา ทันหุ้น)