วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SCGP Key snap – site visit ที่เวียดนาม

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SCGP Key snap – site visit ที่เวียดนาม

ประเด็นสำคัญจากการไป site visit ที่โรงงาน SCGP ในเวียดนาม (Duy Tan, VKPC และ Go-Pak)

เวียดนาม (VN) – เป้าหมายหลักในการสร้างการเติบโตของเครือ

เวียดนามเหมาะกับ SCGP ในเชิงกลยุทธ์เพราะมีหลายปัจจัยที่เอื้ออำนวย เช่น การเติบโตที่สูง, ประชากร, การค้าขาย, ที่ตั้ง และ FDI ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ (Figure 2-4) ทั้งนี้ สินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งอุปสงค์แข็งแกร่ง คิดเป็น 68% ของรายได้ SCGP VN โดย EBITDA จากเวียดนามเพิ่มขึ้น 1.7x ในปี 2565 (จากปี 2562) และคิดเป็น 15% ของ EBITDA ของ SCGP รวม นอกจากนี้บริษัทยังจะตั้งโรงงาน packaging paper แห่งใหม่เวียดนามเหนือ (SCOD: ปี 2568) ซึ่งจะทำให้ส่งออกไปจีนได้ง่ายขึ้น และเป็นหนึ่งในเจ้าแรกๆที่ ขยับ ในอีก 5 ข้างหน้า บริษัทมีแผนจะขยายกิจการทั้งแบบ organic และ M&As โดย SCGP ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาด packaging paper เป็น 25% (จาก 17% ในปัจจุบัน) และ fiber packaging รวมถึง polymer packaging เป็น 20% (จาก 9%)

 

โรงงานที่ต่างกัน ทำหน้าที่ต่างกันออกไป

Polymer packaging เป็นตัวหลักที่ทำรายได้ในเวียดนามให้ SCGP (นำโดย rigid packaging) ขณะที่ fiber และ packaging paper ทำรายได้รองมา ทั้งนี้ Duy Tan เป็นหัวหอก plastic packaging ที่เวียดนาม ขณะที่ VKPC และ Go-Pak เป็นหัวหอก packaging paper และ food service packaging เราคาดว่า SCGP น่าจะกำลังศึกษาดีล M&A อยู่หลายดีล ซึ่ง SCGP ไม่มีดีล M&A ใหญ่ๆ เลยตั้งแต่ปี 65 เมื่อเทียบกับการขยายตัวแบบ inorganic ที่พบในช่วงหลัง IPO ในปี 2563-64 เช่น Duy Tan, Go-Pak, Intan และ Deltalab ซึ่งเรามองว่านอกจากภาวะตลาดที่อ่อนแอ การขาดดีล M&A ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อัตราการเติบโตลดลง

 

 

 

อัพเดตโมเมนตัมกำไรในปี 2566F

เนื่องจากจีนยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ (เห็นได้จาก PMI และการนำเข้า packaging paper) และเศรษฐกิจยังลุ่มๆดอนๆอยู่ เราจึงคาดว่าผลการดำเนินงาน SCGP ในปี 2566F น่าจะดีขึ้นทางฝั่งต้นทุน ขณะที่รายได้ยังไม่ดีนัก เราคาดว่ากำไรหลักใน 2Q66F จะอยู่ในช่วง 1.2-1.3 พันลบ. (+QoQ, - YoY) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จะเป็นเพราะต้นทุนลดลง (อัตราค่าระวางขนส่ง, ราคาถ่านหิน และกระดาษรีไซเคิล) และปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนปัจจัยฉุดรั้งน่าจะเป็นราคาขายที่ลดลง และต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเราคาดว่ากำไรจะยังลดลง YoY จากฐานกำไรที่สูงในปีที่แล้ว นอกจากนี้เรายังคาดว่ากำไรใน 2H66F อาจจะดีดตัวขึ้นได้แรง (+YoY, +QoQ) ทั้งนี้เรายังมองว่าจะยังท้าทายสำหรับ SCGP ที่จะทำให้กำไรราย
ไตรมาสกลับไปสูงเหมือนเมื่อก่อนเนื่องจากสภาวะตลาดปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย

 

Valuation and action

จากภาวะตลาดอ่อนแอและความกังวลเกี่ยวกับจีน นักลงทุนจึง derate หุ้น SCGP ลงไปอยู่ที่ 31x ใกล้เคียงกับระดับ -1S.D. จาก forward PE แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯอยู่ ทั้งนี้จากแนวโน้มการฟื้นตัวที่ช้า เราคาดว่า ROE ในปี 2566F จะยังต่ำกว่าระดับ IPO ดังนั้น เราจึงยังคงแนะนำให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน รอการฟื้นตัวของกำไรที่แข็งแกร่งมากขึ้นและดีล M&As ขนาดใหญ่ เราจึงยังแนะนำ ถือ! ด้วยราคาเป้าหมายที่ 50.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 10.5x (ค่าเฉลี่ยหุ้นของธุรกิจนี้ในต่างประเทศ)

 

Risks

ความผันผวนวัตถุดิบและพลังงาน, การด้อยค่าของสินทรัพย์จากดีล M&Asและความเสี่ยงของประเทศ

 

 

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SCGP Key snap – site visit ที่เวียดนาม