Food and Beverage แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ไปคนละทิศละทาง

Food and Beverage แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ไปคนละทิศละทาง

ปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนใช้เวลาแก้ไขนานกว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ราคาหมูตกต่ำ นอกจากนี้ ผู้ผลิตรายใหญ่ยังขยายกำลังการผลิต ทำให้คาดว่าผลผลิตหมูขุนจะอยู่ที่ 17.0-17.5 ล้านตัว ใกล้เคียงกับระดับปกติที่ 18.0-20.0 ล้านตัว

ดังนั้น เราจึงมองว่าปัจจัยที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของราคาหมูแผ่วลงไป และปรับลดสมมติฐานราคาหมูปี 2566F และ 2567F ลง 11% และ 3% ตามลำดับเหลือ 78.00 บาท/กก. แต่ในอีกด้านหนึ่ง ราคาไก่ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และอุปสงค์จากการเปิดประเทศทำให้เราปรับเพิ่มสมมติฐานราคาไก่ปี 2566F ขึ้นอีก 5% และปี 2567F ขึ้นอีก 14% เป็น 42.00 บาท/กก.

 

ต้นทุนอาหารสัตว์จะลดลงอีกใน 2H66F

เรายังคงคาดว่าต้นทุนอาหารสัตว์ใน 2H66F จะลดลง HoH ดังนั้น เราจึงยังคงสมมติฐานราคากากถั่วเหลืองและข้าวโพดปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ 21.75 บาท/กก. และ 12.80 บาท/กก. ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เพื่อสะท้อนถึงสภาพอากาศที่อาจจะแห้งแล้งเพราะผลกระทบจาก El Nino เราจึงปรับเพิ่มสมมติฐานราคาข้าวโพดปีหน้าขึ้นอีก 9% เป็น 12.50 บาท/กก. แต่ยังคงสมมติฐานราคากากถั่วเหลืองปีหน้าเอาไว้เท่าเดิมที่ 20.00 บาท/กก. เนื่องจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐ อาร์เจนตินา และบราซิล น่าจะทำให้อุปทานล้นตลาด

 

 

โมเมนตัมกำไรเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทที่มีธุรกิจหมูจะอ่อนแอในระยะสั้นถึงกลาง ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ของ BTG และ TFG ลง 35% และ 37% โดยคาดว่าการฟื้นตัวของธุรกิจจะเลื่อนไปเป็นครึ่งหลังของปีนี้แทน แต่เรายังคงประมาณการกำไรของ GFPT ในปี 2566F เอาไว้เท่าเดิม เนื่องจากราคาไก่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นว่าผลประกอบการของบริษัทจะฟื้นตัวขึ้น ตั้งแต่ 2Q66F เป็นต้นไป ถึงแม้เราจะปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ TFG และ BTG ในปี 2567F ลง 11% และ 17% ตามลำดับ และปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็นถือ แต่เราคาดว่าผลการดำเนินงานของผู้ผลิตเนื้อสัตว์น่าจะดีขึ้น YoY เนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนให้ GPM ฟื้นตัวขึ้น

 

ให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้ที่ Neutral โดยเลือก GPFT เป็นหุ้นเด่นของเรา

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ Neutral เนื่องจากคาดว่าผลการดำเนินงานใน 2Q66F ของบริษัทในกลุ่มที่เราศึกษาอยู่จะมีทั้งบวกและลบ เราเลือก GFPT เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้เพราะทำธุรกิจไก่ล้วน ๆ ในขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจน และราคาหุ้นยังถูกอยู่ (คิดเป็น PER ปี 2566F ที่ 8.5x และ PBV ที่ 0.8x) นอกจากนี้ ยังมี upside จากการส่งออกไก่จากประเทศไทยจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดนกในบราซิล ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าบางราย (ญี่ปุ่น และยุโรป) กระจาย supplier มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง

 

Risks

ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ, ราคาเนื้อสัตว์และปลาทูน่า, การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก