Daily Strategy : หลากหลายปัจจัยลบ - 26 เมษายน 2566

Daily Strategy : หลากหลายปัจจัยลบ - 26 เมษายน 2566

ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ร่วง 18 จุด ปิดที่ระดับ 1,540 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศจากแรงขายหุ้นกลุ่ม Tech ขณะที่ Fund flow ต่างชาติไหลออกกดดันหุ้น Big Cap

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,530 / 1,520 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวหลังคาดการณ์ว่า FED , BoE และ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. นอกจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ปรับตัวลง รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจะเป็นแรงกดดันต่อภาวะการลงทุนช่วงนี้ ดังนั้นยังคงแนะนำ Selective buy หุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวต่อไป

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

KSL BRR KBS KTIS อานิสงส์ราคาน้ำตาลพุ่งสูงสุดในรอบ 11 ปี 

AMATA WHA ROJNA NYT อานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย

ADVANC INTUCH BCH WHAUP CPALL SISB ICHI คาดการณ์งบ 1Q23F เติบโตขึ้น

 

หุ้นแนะนำวันนี้

BCH (ปิด 21.80 ซื้อ/เป้า 26.5 บาท) ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาระบาดใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะการตรวจพบสายพันธ์ใหม่ (XBB.1.16 และ XBB.1.1) และได้ประโยชน์จากประกันสังคมปรับเพิ่มค่ารักษาฯ รายหัวเพิ่ม 10% 

CPALL (ปิด 63.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72.75 บาท) คาดกำไรสุทธิ 1Q23 เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy จาก SSSG ที่เพิ่ม โดยเฉพาะสาขาในหัวเมืองท่องเที่ยว แนวโน้ม 2Q23 โตต่อจากการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์และเลือกตั้ง

บทวิเคราะห์วันนี้

PLANB (ปิด 7.85 ถือ/เป้าใหม่ 8 จาก 9.1), VGI (ปิด 3.38 ซื้อ/เป้า 5.5)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) ยอดผลิตและส่งออกรถยนต์เดือน มี.ค. โตดี แต่ยอดขายในประเทศชะลอตัว: โดยมียอดผลิตที่ 179,848 คันเพิ่มขึ้น 8.6%mom และ 4.16%yoy เป็นบวกกับ AH SAT และ STANLY, ยอดส่งออก 98,381 คันเพิ่มขึ้น 4.84%mom และ 11.1%yoy เป็นบวกกับ NYT ส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 79,943 คัน เพิ่มขึ้น 11.7%mom แต่ลดลง 8.37%yoy เป็นลบกับ TISCO KKP 

(-) คลังมองลบลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 66 โต 3.6% จาก 3.8%: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของไทยปีนี้เหลือโต 3.6% จากเดิมคาด 3.8% สะท้อนภาพ ศก.โลกที่ชะลอตัวจึงปรับสมมติฐานของภาคส่งออกเป็นหดตัว 0.5% จากเดิมคาดขยายตัวเล็กน้อย 

(+) ครม. ตั้งงบกลาง 1.1 หมื่นล้านบาทช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้ประชาชน: แบ่งเป็น 1) ส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย จำนวน 18.4 ล้านรายคิดเป็งวงเงิน 7.6 พันล้านบาท ระยะเวลา 4 เดือน คือ พ.ค.- ส.ค. และ 2) ให้ส่วน 150 บาทต่อรายเฉพาะรอบบิลเดือน พ.ค. สำหรับผู้ใช้ในพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง จำนวน 23.4 ล้านรายมูลค่า 3,510 ล้านบาท