PFund-REITs-IFF - JASIF ถูกกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากข่าวลบ

PFund-REITs-IFF - JASIF ถูกกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากข่าวลบ

เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคากองทุนในเดือนมีนาคม เราพบว่า JASIF ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่กองเด่นของเราถูกกระทบจากกระแสข่าวว่า Triple T Broadband (“3BB”) ไม่สามารถจ่ายค่าเช่ารายเดือนให้กองทุนได้เต็มจำนวน

ดังนั้น นักลงทุนจึงกังวลเกี่ยวกับความสามารถของกองทุนในการจ่ายเงินปันผลในระยะยาว นอกจากนี้ ตลาดยังคาดว่าในขั้นต่อไป 3BB อาจจะเปลี่ยนผู้ถือหุ้น (จาก “Jasmine International (JAS.BK/JAS TB)*” เป็น “Advanced Info Service (ADVANC.BK/ADVANC TB)*”) ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้ถือหน่วยของ JASIF ได้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง (ตามปกติจะ >8% ต่อปี) มาหลายปี แต่อย่างไรก็ตาม โครงสร้างผู้ถือหุ้นของกองทุนที่เปลี่ยนแปลงไป จะทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ JASIF จะจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสลดลงในอนาคต (จาก 0.23 บาท/หน่วยในปัจจุบัน) เพราะกองทุนน่าจะต้องเปลี่ยนสัญญาทางธุรกิจใหม่ ถ้าหาก ADVANC กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ใน JASIF ซึ่งข้อเสนอเดิมของ ADVANC ในดีลนี้คือ i) จะจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 พันล้านบาท และ ii) ขยายอายุสัญญาออกไปห้าปี ซึ่งเราคิดว่าผู้ถือหน่วยของ JASIF น่าจะพอใจกับดีลนี้ เพราะจะส่งผลดีในแง่ของ i) แนวโน้มธุรกิจที่แข็งแกร่งของ TTTBB จากรายได้ที่แน่นอนในระยะยาว และ ii) โอกาสในการเติบโตจากการที่ ADVANC เป็นผู้นำในธุรกิจ broadband (ลูกค้า >4 ล้านราย และมีเครือข่ายครอบคลุมอย่างกว้างขวาง)

 

 

 

JASIF กำลังถูกกดันจากประเด็นความไม่นอน

เราคิดว่า ตลาดน่าจะตอบรับข่าวลบจากการที่ 3BB จ่ายค่าเช่าให้ JASIF ล่าช้าไปแล้ว แม้ว่า 3BB จะสามารถเลื่อนชำระค่าเช่าได้ภายใน 15 วันหลังวันครบกำหนดจ่ายค่าเช่าในวันที่ 30 มีนาคม 2566 ในขณะเดียวกัน 3BB ต้องจ่ายค่าปรับ 7.50% ต่อปี จนกว่าจะจ่ายค่าเช่าเต็มจำนวน ซึ่งในที่สุด JASIF ก็ได้รับชำระค่าเช่าเต็มจำนวนรวมค่าปรับจาก 3BB ทั้งนี้ BBL Asset Management ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารจัดการJ ASIF ชี้แจงว่าการปรับค่าเช่าเพื่อการปรับโครงสร้างค่าเช่าจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ JASIF ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหน่วยก่อนเท่านั้น

โดยสรุปแล้ว เราคิดว่าจะยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ในระยะสั้น เพราะกระบวนการเข้ามาของ ADVANC จะต้องใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งคาดว่าการเข้าซื้อ JASIF จะได้รับการอนุมัติจาก กสทช. ใน 2Q66 เราคิดว่าสินทรัพย์ในธุรกิจ broadband ของ JASIF มีค่ากับ ADVANC มากพอที่จะทบทวนข้อเสนอ และต่อรองกับผู้ถือหน่วยของ JASIF เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในระยะยาว

หากอิงจากการการจ่ายเงินปันผลของ JASIF ตั้งแต่ปีแรกจนถึง 4Q65 เราพบว่ากองทุนได้จ่ายเงินปันผลไปแล้วรวม 7.21 บาท/หน่วย จากมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นของผู้ถือหน่วยที่ 10.00 บาท/หน่วย ทั้งนี้ หากใช้สมมติฐานว่ากองทุนยังคงจ่าย DPU รายไตรมาสที่ 0.23 บาท สำหรับปี 256-2567 DPU ส่วนที่เหลือจะเท่ากับ 1.84 บาท/หน่วย คิดเป็น DPU รวมที่ 9.05 บาท/หน่วย ทั้งนี้ ความกังวลหลักต่อกอง JASIF ยังคงอยู่ที่ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสลดลงในอนาคต โดยราคาเป้าหมายตาม Bloomberg consensus อยู่ในช่วง 6.20 ถึง 8.50 บาท (ช่วงราคาเป้าหมายต่ำสุดและสูงสุด)

 

 

 

Recommendation

เรายังคงคำแนะนำกองเด่นของเราเอาไว้เหมือนเดิม ได้แก่ i) JASIF, DIF และ WHAIR ซึ่งเป็นกองทุนแถวหน้าที่เราแนะนำ และ ii) ALLY, GROREIT, CPNREIT และ BTSGIF เป็นกองทุนระดับรอง อย่างไรก็ตาม เราอาจจะปรับเปลี่ยนกองทุนที่เราแนะนำใหม่ได้ ถ้าหากมีปัจจัยลบที่มากระทบกับผลตอบแทนของกองทุน (ได้แก่ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล และราคากองทุน)

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ปัญหาเสถียรภาพางการเมือง