AAV ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง (27 มี.ค. 2566)

AAV ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง (27 มี.ค. 2566)

บริษัทเชิญผู้มีส่วนได้เสีย (นักวิเคราะห์ ตัวแทนจากกองทุน และสถาบันการเงิน) ร่วมงาน “AAV Investor Day 2023” ซึ่งบริษัทจัดขึ้น เพื่อนำเสนอแนวโน้มระยะต่อไปหลัง COVID-19

โดยประเด็นสำคัญที่เราได้จากงานนี้ ได้แก่

i) AAV ตั้งเป้าผู้โดยสารปี 2566F ไว้ที่ 20 ล้านคน จากจำนวนผู้โดยสารที่ 9.95 ล้านคนในปี 2565 AAV คาดว่าผู้โดยสารปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคน โดยจะได้แรงสนับสนุนจากการที่เที่ยวบินในประเทศกลับไปอยู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดแล้ว ในขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศฟื้นตัวกลับไปอยู่ที่ประมาณ 80% แล้ว โดยยังมี upside เพิ่มอีกจากจีน โดยสรุปแล้ว เป้าผู้โดยสารของบริษัทใกล้เคียงกับประมาณการปีนี้ของเราที่ 20.2 ล้านคน นอกจากนี้ ธุรกิจของ AAV ยังมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2566 เมื่อพิจารณาจากแนวโน้ม RASK และ CASK (จากการที่อัตราการใช้งานเครื่องบิน (aircraft utilization)
เพิ่มขึ้นเป็น 12.5 ชั่วโมง/วัน)

ii) คาดว่ารายได้รวมจะใกล้เคียง 6 หมื่นล้านบาทในปี 2569F สำหรับในระยะต่อไป บริษัทคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกสามปีข้างหน้า เพราะตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่เกือบ 6 หมื่นล้านบาท (จากรายได้รวมที่ 1.8 หมื่นล้านบาทในปี 2565) เราคิดว่า AAV น่าจะทำรายได้ได้ตามเป้า เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งครองความเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง เราจึงคาดว่าบริษัทน่าจะเติบโตได้อย่างเนื่องในอีกสองสามปีข้างหน้า นอกจากนี้ การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เที่ยวบินในเส้นทางจีนฟื้นตัวขึ้นจากปี 2566 เป็นต้นไป

 

 

 

 

 

แนวโน้มเป็นบวกในอีกสองสามปีข้างหน้า

เราคาดว่า ผลการดำเนินงานของ AAV จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2566 และ 2567 เนื่องจาก i) จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ii) ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง และ iii) ถือหุ้น 100% ใน TAA แล้ว สำหรับแนวโน้มใน 1Q66 เราคิดว่าโมเมนตัมของ AAV จะยังคงเป็นบวกต่อเนื่องจากการที่จีนกลับมาเปิดประเทศ เพราะรายได้จากจีนคิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ก่อน COVID ระบาด เรามองว่าแนวโน้มระยะยาวเป็นบวกจากการขยายเส้นทางบินเชิงกลยุทธ์ นอกจากนี้ AAV ยังดูดีในเชิงของความยั่งยืนในระยะยาว จากการดำเนินการด้าน ESG (เช่น FTSE4Good, Bloomberg Gender Equity Index, TCFD และ DJSI)

 

คงประมาณการกำไรปี 2566F-2567F เอาไว้เท่าเดิม

เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวของ AAV ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F เอาไว้ที่ 1.51 พันล้านบาท และปี 2567F เอาไว้ที่ 2.21 พันล้านบาท

 

Valuation & Action

เนื่องจากบริษัทมีแนวโน้มสดใสจากการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 3.70 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 10.4x)

 

Risks

ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น, COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจดถอย