กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตหุ้นแนะนำ มี.ค. - เน้นหุ้นขนาดกลางไปก่อน รอเวลาตลาดฟื้นตัว

กลยุทธ์การลงทุน พอร์ตหุ้นแนะนำ มี.ค. - เน้นหุ้นขนาดกลางไปก่อน รอเวลาตลาดฟื้นตัว

พอร์ตหุ้นแนะนำ ก.พ. ปรับลดลง 3.4% และอ่อนแอกว่าดัชนีฯ เล็กน้อย ตลาดหุ้นไทยอ่อนแอเกินคาดในเดือนกุมภาพันธ์

เพราะถูกกดดันจากกระแสเงินทุนไหลออกที่เกิดจากการที่นักลงทุนปรับความคาดหมายต่อระดับดอกเบี้ยสูงสุด (terminal interest rate) ของสหรัฐ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเงินเฟ้อยังสูงเกินคาดในเดือนมกราคม นอกจากนี้ ผลประกอบการ 4Q65 ของบริษัทจดทะเบียนไทยยังต่ำกว่าที่คาดไว้อย่างมากด้วย ทำให้มีการปรับลดประมาณการ EPS ลงทั้งในส่วนของปี 2565 และ 2566 ซึ่งแรงกดดันจากประเด็นดังกล่าวมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยบวกภายในประเทศเกี่ยวกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และสัญญาณการยุบสภาในช่วงกลางเดือนมีนาคม ทั้งนี้ พอร์ตหุ้นของเราลดลง 3.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ แย่กว่าดัชนี SET ที่ลดลงเพียง 2.5% ทั้งนี้ เมื่อพิจารณา YTD พอร์ตหุ้นรายเดือนของเราลดลง 3.7% ในขณะที่ดัชนี SET ลดลง 2.4%

 

 

มุมมอง SET Index มี.ค. น่าจะมีความเสี่ยงทางลงจำกัด แต่ยังไม่มีปัจจัยให้ตลาดฟื้นตัวได้เช่นกัน

สำหรับในเดือนมีนาคม เรามองว่าดัชนี SET น่าจะยังแกว่งลงต่อ (sideways down) จนกว่าจะทราบผลการประชุม FOMC ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 เรามองว่าไม่น่าจะมีปัจจัยกระตุ้นที่มีนัยสำคัญเข้ามาทำให้กระแสการอ่อนค่าของเงินบาท และกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นกลับทิศได้ เราคิดว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะออกมาแข็งแกร่งในระยะสั้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อน่าจะยังสูงอยู่ตามที่ได้เห็นแล้วจากตัวชี้วัดเงินเฟ้อสำคัญทั้งหลายในเดือนมกราคม ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่าค่าเงินบาทขยับไปอยู่ที่ 35.50 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งหมายความว่าเงินบาทน่าจะอ่อนค่าลงไปอีกในช่วงสัปดาห์ต่อ ๆไป อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมี downside จำกัด เพราะเมื่ออิงจากการวิเคราะห์ earnings yield gap (EYG) โดยใช้สมมติฐาน EYG ระยะยาวที่ 4.1% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีที่ 2.6% และ EPS ปี 2566 (ของหุ้นที่ KGI ศึกษาอยู่) ซึ่งอาจจะมีการปรับลดลงอีก 2% ในสัปดาห์ต่อ ๆไป ระดับที่เหมาะสมของดัชนี SET จะยังอยู่ที่ประมาณ 1,600 จุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีน่าจะยุบสภาในช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งจะทำให้ตลาดเข้าสู่โหมดของความคาดหวังเชิงบวกต่อการเลือกตั้งอย่างเต็มตัว โดยสรุปแล้ว เรามองว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสจะสร้างจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม และพร้อมที่จะพลิกกลับไปอยู่โหมด risk-on อีกครั้งเมื่อกระแสเงินทุนไหลออกแผ่วลง

 

ธีมหุ้นเด่น มี.ค. เน้น 3 ธีมคือ หุ้นท่องเที่ยว + หุ้นรับการยุบสภา/เลือกตั้ง + หุ้นที่กำไรพลิกฟื้นมาแข็งแกร่งใน 1Q66

เรายังคงมุมมองการลงทุนแบบตั้งรับ (defensive) กับดัชนี SET ในเดือนมีนาคม และมองว่าไม่น่าจะมีปัจจัยกระตุ้นให้ตลาดพลิกกลับได้ชัดเจนจนถึงช่วงปลายเดือน ดังนั้น เราจึงถอดหุ้นขนาดใหญ่แบบ conventional หลายตัวออกจากพอร์ตหุ้นรายเดือนของเรา และหันมาเน้นหุ้นที่มีธีมเฉพาะแทน โดยเรามองว่ามี 3 ธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ i) การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ii) การเลือกตั้ง ซึ่งตามสถิติแล้วจะส่งผลดีต่อหุ้นบางกลุ่ม อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์ สื่อ และนิคมอุตสาหกรรม และ iii) บริษัทที่ผล
ประกอบการมีแนวโน้มจะพลิกฟื้นใน 1Q66 ดังนั้น เราจึงเลือกหุ้นมาเจ็ดตัวสำหรับเดือนนี้ ได้แก่ ERW, MINT*, AP*, BEC*, LH*, WHA* และ PTG*