ERW ผลประกอบการ 4Q65: ดีกว่าคาดอย่างมาก

ERW รายงานกำไรปกติที่ 212 ล้านบาทใน 4Q65F พลิกกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ COVID-19 เริ่มระบาด (จากขาดทุนปกติที่ 351 ล้านบาทใน 4Q64 และ 11 ล้านบาทใน 3Q65) ผลการดำเนินงานออกมาสูงกว่าอย่างมาก (เราคาดไว้ที่ 130 ล้านบาท) มาจากอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาด 3ppts ในภาพรวม ปัจจัยที่ผลักดันผลประกอบการใน 4Q65 มาจากรายได้โรงแรมเติบโตที่ 1.7 พันล้านบาท (+186% YoY และ +35% QoQ) ขณะที่ EBIT margin ฟื้นตัวเด่นอยู่ที่ 19.4% (+60ppts YoY และ+11.6ppts QoQ) ทั้งนี้ผลขาดทุนปกติปี 2565 อยู่ที่ 266 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนที่ 2 พันล้านบาทปี 2564

 

RevPar ดีกว่าช่วงก่อน COVID-19 ระบาด

หากไม่นับรวมโรงแรมกลุ่ม budget แล้ว RevPar ของ ERW ทำสถิติสูงสุดในรอบหลายไตรมาสอยู่ที่ 2,467 บาท (+396% YoY และ +44% QoQ) จาก i) occupancy rate เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเป็น 82% (จาก 67%ใน 3Q65) และ ii) ARR เพิ่มขึ้นเป็น 3,017 บาท (+82% YoY และ +18% QoQ) ทั้งนี้โรงแรมในกลุ่มระดับบน (luxury segment) มีผลการดำเนินงานที่ outperform โดยมี occupancy rate อยู่ที่ 86% โดดเด่นจากโรงแรมในกรุงเทพ (เทียบกับ occupancy rate ในโรงแรมในระดับกลางที่ 78% และโรงแรมขนาดประหยัดที่ 83%) ขณะที่ โรงแรม Hop Inn ในประเทศไทยมี occupancy rate สูงขึ้นเช่นกันอยู่ที่ 78% (เทียบกับช่วงก่อน COVID-19 เริ่มระบาดอยู่ที่ 74%)

 

 

 

เปิดตัวโรงแรม Hop Inn ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งใน 4Q65

ในช่วง 4Q65 ที่ผ่านมา ERW ได้เปิดโรงแรม Hop Inn ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งในกรุงเทพทั้งหมด คือ i) บางนา (132 ห้อง) ii) อ่อนนุช (133 ห้อง) และ iii) กรุงธนบุรี (120 ห้อง) ดังนั้น เมื่อสิ้นปี 2565 ERW มียอดรวมโรงแรม Hop Inn ในประเทศไทยอยู่ 51 แห่ง (รวม 4,325 ห้อง) ขณะที่สัดส่วน D/E ยังควบคุมได้ที่ 1.8x ณ สิ้นปี 2565 (ต่ำกว่า debt covenant ที่ 2.5x)

 

Valuation & action

ท่ามกลาง sentiment ที่เป็นบวกจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เราคาดว่าประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F ของเราอาจมี upside ทั้งนี้เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2566F ที่ 17.9x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +1.5S.D. โดยที่เราเลือก ERW เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงแรม

 

Risks

การแพร่ระบาด COVID-19 ที่นานกว่าคาด