กราฟดีระวังแรงขาย กราฟทรงหายเช็คปัจจัยพื้นฐาน

กราฟดีระวังแรงขาย กราฟทรงหายเช็คปัจจัยพื้นฐาน

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ระวังปัจจัยถ่วงจากเรื่องงบและการปรับประมาณการ เรามีมุมมองเป็นลบและให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็น “น้อยกว่าตลาด” มาระยะหนึ่ง

เนื่องจากกังวลความเสี่ยงของการปรับลดประมาณการกำไรที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก และมุมมองต่ออุตสาหกรรมที่ไม่สดใสจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ วานนี้ KCE รายงานผลประกอบการมีกำไรต่ำกว่าตลาดคาดและมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงไตรมาส 1/66 ขณะที่การฟื้นตัวน่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้หุ้นมีแรงขายทำกำไรรุนแรง และฉุดหุ้นอื่นในกลุ่มลง ทั้งนี้ Valuation ของกลุ่มอยู่ในระดับที่สูงขณะที่แนวโน้มกำไรไม่แน่นอน ทำให้เรายังคงมุมมองระมัดระวังต่อหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยปัจจุบันไม่มีหุ้นที่เราให้คำแนะนำซื้อในกลุ่มนี้

 

เริ่มเห็นการปรับพอร์ตจากนักลงทุนต่างชาติชัดเจนขึ้น วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในหุ้นไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ซึ่งเรามองการขายทำกำไรและปรับพอร์ตจะยังคงมีความต่อเนื่องสอดคล้องไปกับการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่จะออกมามากในช่วงปลาย ก.พ.66 ภาพรวมเรายังให้นักลงทุนระวังกลุ่มที่ปรับขึ้นมามากและมีการเก็งกำไรสูง อาทิ อิเล็กทรอนิกส์, ค้าปลีก (สินค้าไอที) เป็นต้น ขณะที่เน้นการเข้าลงทุนในกลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ กลุ่มเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย, ค้าปลีก (ที่ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวกลับมา), ปิโตรเคมี, การเงิน, โภคภัณฑ์ (เฉพาะเหล็กและน้ำตาล) และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, SAMART, SDC เป็นต้น
 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ DMT, TVDH, FLOYD, SORKON, ASW, S, CBG, AEONTS, SAMART, SDC 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR

 

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดอาจจะผันผวนจากการปรับพอร์ตของต่างชาติและการรายงานงบรายตัวในระยะสั้น การเก็งกำไรระยะสั้นเน้น selective buy หุ้นที่ยัง Laggard และเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่จะลดลง รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว //หุ้นแนะนำ: BJC*, MAJOR*, S*, SAMART*

แนวรับ: 1,650-1,658 / แนวต้าน : 1,680 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด – เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล 

สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.1% - เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2563 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย.

กลาโหมจีนเมินคำขอเจรจาของสหรัฐ ไม่พอใจหลังสอยบอลลูนตก – สหรัฐฯ ได้ส่งคำร้องขอเจรจาระหว่างนายออสตินกับนายเว่ย เฟิงเหอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีนเป็นการด่วน หลังจากที่เครื่องบินรบของสหรัฐฯ ยิงบอลลูนตก (บ่าย 4 ก.พ.) แต่จีนปฏิเสธคำขอดังกล่าว

สี จิ้นผิง ยังคงนโยบาย Common Prosperity –ปัจจุบัน ประสิทธิภาพในการผลิตของจีน (total factor productivity) อยู่ที่ 40% ของระดับประสิทธิภาพการผลิตของสหรัฐฯ ดังนั้นคาด Common Prosperity ยังคงอยู่ และอาจมีการแทรกแซงการจัดสรรทรัพยการในการผลิตมากขึ้น

อานิสงส์จีนเปิดประเทศ หนุนยอดเข้าพักโรงแรม ม.ค.โตต่อเนื่อง –  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ม.ค.66 พบว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 64% และคาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักเดือน ก.พ. จะเฉลี่ยอยู่ที่ 60%

ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 คืบหน้ากว่าแผน คาดเปิดใช้ท่าเรือก๊าซปี 70 – มีแนวทางการดำเนินการแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 เป็นการร่วมทุนระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กับเอกชน เพื่อขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นพื้นที่ถมทะเล 1,000 ไร่ และช่วงที่ 2 เพื่อก่อสร้างท่าเรือสินค้าเหลว (แปลง A) และพื้นที่คลังสินค้าธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (แปลงC)

ติดตาม MSCI Rebalancing วันที่ 9 ก.พ. (ทราบผลเช้า 10 ก.พ.) ว่าจะมีหุ้นใดถูกนำเข้า-ออกจากการคำนวณดัชนี รวมถึงทิศทางการปรับเพิ่ม-ลด น้ำหนักหุ้นไทย เมื่อเทียบกับภูมิภาค

หุ้น IPO เทรดวันแรก วันนี้ – NTSC หรือ บมจ. นิวทรีชั่น เอสซี เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ราคา IPO 26.25 บาท

 

ประเด็นติดตาม: 9 ก.พ. - Initial Jobless Claims / 14 ก.พ. – US CPI / 15 ก.พ. – EU Core Retail Sales, US Retail Sales / 16 ก.พ. – US Building Permits, US PPI / 20 ก.พ. – TH GDP Q4

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)