กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ฟื้นตัวได้ต่อ ฟันด์โฟลว์น่าจะแข็งแกร่งขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ฟื้นตัวได้ต่อ ฟันด์โฟลว์น่าจะแข็งแกร่งขึ้น

ตลาดน่าจะกลับมาปรับขึ้นได้ในสัปดาห์นี้  ในสัปดาห์ที่แล้ว (23-27 มกราคม 2566) ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ และผันผวนในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดอื่น ๆ ในโลกจะประคองตัวได้เพราะตัวเลขเศรษฐกิจจากกลุ่มประเทศหลักยังฟื้นตัวได้ดี

และทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่หุ้นไทยยังปรับตัวแย่กว่าที่คาดโดยนักลงทุนยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นหลักสองสามตัว อย่างไรก็ตาม ดัชนี SET ดีดตัวขึ้นได้เล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เพราะหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง และการที่ BBL* ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากอีกรอบซึ่งอยู่เหนือความคาดหมาย

ในสัปดาห์นี้ เรามองบวกมากขึ้นกับแนวโน้มดัชนี SET เพราะคาดว่ากระแสเงินทุนไหลเข้าจะแข็งแกร่งมากขึ้นท่ามกลางความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างน้อยก็ในระยะสั้น โดย GDP สหรัฐใน 4Q65 ที่น่าจะฟื้นตัวได้ดี และตัวเลขผลสำรวจ Ifo เดือนมกราคมของเยอรมนีที่ดีดตัวขึ้นจะเป็นสองปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่ช่วยหนุนภาวะตลาดให้เป็นบวก ทั้งนี้ นักลงทุนอาจจะเห็นสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ DM ในสัปดาห์นี้ เมื่อ Fed และ ECB เปิดเผยผลการ
ตัดสินนโยบายการเงินออกมา สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามองว่าการที่ธนาคารพาณิชย์ไทยขึ้นดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากที่ กนง. ขึ้นดอกเบี้ยไปเมื่อวันพุธน่าจะส่งผลดีต่อราคาหุ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรายังต้องติดตามผลสืบเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงที่ผ่านมากับคุณภาพสินทรัพย์ด้วย

 

 

 

ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ, การตัดสินนโยบายการเงินโดย Fed และ ECB, และตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของไทย

ปัจจัยต่างประเทศ: จะมีทั้งการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ และการประชุมตัดสินนโยบาย ในฝั่งสหรัฐ นักลงทุนควรติดตามตัวเลข ISM ภาคการผลิต และ ตัวเลขการจ้างงานเดือนมกราคม และการตัดสินนโยบายการเงินของ FOMC โดย Consensus คาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียง 25bps เป็น 4.75% ส่วนทางฝั่งยุโรป ECB ก็มีกำหนดการประชุมเช่นกัน ซึ่งตลาดคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 50bps เพราะ ECB ยังคงเป็นห่วงเงินเฟ้ออยู่

ปัจจัยในประเทศ: ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของ ธปท. และ และผลประกอบการ 4Q65 ในวันที่ 31 มกราคม ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งเราคาดว่าน่าจะยังเป็นทิศทางเดียวกันกับช่วงเดือนที่ผ่านๆ มา โดยดัชนีที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศจะยังคงแข็งแกร่ง YoY แต่การส่งออก และภาคการผลิตอุตสาหกรรมจะยังคงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ลงทุนต่อในหุ้นธีมที่เราแนะนำสำหรับ 1Q66

เนื่องจากเราคาดว่ากระแสเงินทุนไหลเข้าจะมีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น และตลาดน่าจะมีแรงหนุนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เราแนะนำให้นักลงทุนยังลงทุนต่อในหุ้นธีมที่เราแนะนำตามกลยุทธ์ใน 1Q65 อย่างเช่น กลุ่มผู้บริโภค และท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจากจีน เรายังคงเลือก CPALL*, AOT*, BDMS*, MINT* และ ERW* เป็นหุ้นเด่นของเรา สำหรับกลุ่มธนาคารที่มีการขึ้นดอกเบี้ยระลอกใหม่ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่ออัตรากำไร เรายังคงชอบธนาคารที่มีความเสี่ยงด้านคุณภาพ
สินทรัพย์จำกัด อย่างเช่น BBL* และ KTB* นอกจากนี้ในระยะสั้น เรามองว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจะมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่อง หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อเศรษฐกิจโลก + high season ของค่าการกลั่น โดยเราชอบหุ้น TOP* และ SPRC*