หวังโทนของรายงาน IMF กลับมาผลักดันตลาดหุ้นโลก

หวังโทนของรายงาน IMF กลับมาผลักดันตลาดหุ้นโลก

ติดตามรายงานเศรษฐกิจโลกของ IMF 31 ม.ค. ประเมินโทนอาจเริ่มกลับเป็นบวก แม้ในปีที่ผ่านมา IMF จะปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกลงเกือบทุกครั้งที่มีการออกรายงาน (World Economic Outlook: WEO) แต่ในรายงานฉบับล่าสุด (WEO Jan 2023)

เรามองว่า มีโอกาสที่ IMF จะปรับประมาณการขึ้น หรือส่งสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจเช่นกัน อันเนื่องจาก 1) การเปิดประเทศของจีนที่ส่งผลบวกต่อโทเทนตัมเศรษฐกิจโลก 2) เศรษฐกิจยุโรปช่วงที่ผ่านมา ถดถอยในระดับที่ไม่ลึกอย่างที่เคยกังวล และ 3) IMF เคยให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอแต่มีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงการถดถอยได้ ซึ่งเรามองโทนบวกของทั้ง 3 ปัจจัยข้างต้น จะช่วยปิดความเสี่ยงทางลงของสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น (แม้อาจมีการปรับลดคาดการณ์เล็กน้อย) และเรามองตลาดมีโอกาสตอบรับเชิงบวก

 

ภายนอก ติดตามประชุมเฟดและการออกมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของจีน ขณะที่ภายในคือการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง นอกจากข้อมูลจาก IMF ติดตามสถานการณ์เลือกตั้ง ปัจจัยที่อาจเข้ามากระทบตลาดในสัปดาห์นี้ 1) การประชุมเฟด ซึ่งจากการที่การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอยู่ในช่วงท้ายแล้ว ตลาดพร้อมจะมีมุมมองบวก หากไม่มีการส่งสัญญาณที่ผิดคาด 2) การกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางจีน เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ทิศทางกิจกรรมเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าหลังหยุดเทศกาลตรุษจีน 3) การเลือกตั้งในประเทศ สัญญาณเดินหน้าเลือกตั้งชัดเจนหลังการประกาศพรป.เลือกตั้งและพรป.พรรคการเมือง ซึ่งระหว่างนี้นโยบายสนับสนุนการบริโภค และการใช้จ่ายด้านสื่อเพื่อหาเสียง จะเป็นปัจจัยบวกกับหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ เราคาดการยุบสภาจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนหมดวาระของสมาชิกสภาผู้แทนวันที่ 23 มี.ค.66 ไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้กรอบการเลือกตั้งยังอยู่ในช่วงวันที่ 7 พ.ค.66 ตามเดิมได้
 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ DMT, TVDH, FLOYD, SORKON 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR

 

ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศการซื้อขายในเอเชียคาดคึกคักขึ้นหลังกลับมาจากหยุดตรุษจีน ลุ้นผ่าน 1,700 จุด จากคาดสัญญาณจาก IMF และเฟดเป็นบวก การเก็งกำไรระยะสั้นเน้นหุ้นที่ยัง Laggard และเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่จะลดลง //หุ้นแนะนำ: BJC*, MAJOR, ASW*, FLOYD*

แนวรับ: 1,670 และ 1,650 / แนวต้าน : 1,688-1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยดัชนี PCE ชะลอตัวสู่ +5.0% - ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.0% yoy ในเดือนธ.ค. ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2564 และชะลอตัวจากระดับ 5.5% ในเดือนพ.ย.

สหรัฐเผยการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลงมากกว่าคาด – ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.1% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนพ.ย.

จีนเผยยอดเดินทางในประเทศช่วงหยุดตรุษจีน ทะลุ 300 ล้านครั้ง - การเดินทางภายในประเทศช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนอยู่ที่ราว 308 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 23.1% yoy

รัฐคาดปี 72 ได้ใช้รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน – นอกจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักใน EEC ยังมีประโยชน์จากการเดินทางที่สะดวกทันสมัย จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น การจ้างงานในอุตสาหกรรมต่อเนื่องกว่า 1 แสนตำแหน่ง 

กกพ. จ่อคลอดเกณฑ์ค่าไฟสีเขียว ช่วยธุรกิจลดอุปสรรคเวทีการค้า – ไฟฟ้าสีเขียว หรือ Green Tariff ที่ออกแบบให้มีการขายไฟฟ้าพร้อมใบรับรอง (Rec) ที่สามารถระบุที่มาของแหล่งผลิตไฟฟ้า เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียว โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าและยุ่งยากกับกระบวนการออกใบรับรอง ปัจจุบัน Green Tariff ได้รับความนิยม และมีให้ใช้แล้วในประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ

กสทช. ไฟเขียว ADVANC ซื้อ 3BB และ กองทุน JASIF 3.2 หมื่นล้านบาท – รอแค่ประกาศตั้งที่ปรึกษาการเงินอิสระอย่างเป็นทางการ ก่อนเสนอบอร์ดกสทช. เคาะภายใน 1-3 เดือนนี้ หากไฟเขียว ควบรวม 3BB กับบรอดแบรนด์ AIS ทันที พร้อมตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน คาดดีลจบ 2Q23 

 

ประเด็นติดตาม: 31 ม.ค. - CB Consumer Confidence / 1 ก.พ. – EU CPI, ISM Manufacturing PMI, Fed Interest  / 2 ก.พ. - ECB Interest Rate Decision / 3 ก.พ. – Nonfarm Payrolls, ISM Non-Manufacturing PMI / 6 ก.พ. -    EU Retail Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)