ผันผวนออกข้าง หุ้นรายงานพิเศษ DMT (20 ม.ค. 2566)

ผันผวนออกข้าง หุ้นรายงานพิเศษ DMT (20 ม.ค. 2566)

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงแรง แต่มีแรงซื้อกลับทำให้ดัชนีปรับตัวในแดนบวกได้เล็กน้อย แรงซื้อมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และอสังหาฯ

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,688.48 จุด +3.04 จุด +0.18% มูลค่าการซื้อขาย 52,894 ลบ. ต่างชาติ +1,715.01 ลบ. TFEX -5,197 สัญญา ตราสารหนี้ -8,775.61 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ +1.07% ปิดที่ 80.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าความต้องการใช้น้ำมันในประเทศจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวเนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย
+ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อกดดันให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% ของ ECB
+ ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแถลงต่อสมาชิกสภา ฮ่องกงจะยกเลิกคำสั่งที่กำหนดให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 กักตัวตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 ม.ค. เป็นต้นไป ในขณะที่รัฐบาลพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจฮ่องกง
+ หอการค้าฟันธง ตรุษจีนปีนี้คึกคัก เม็ดเงินสะพัดกว่า 4.5 หมื่นล้าน สูงสุดในรอบ 3 ปี ผู้บริโภคเตรียมเงินใช้จ่ายมากขึ้น มองราคาสินค้าจะแพงขึ้น

 

ปัจจัยลบ  

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 252.40 จุด หรือ -0.76% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหาร และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 4%YoY ในเดือนธ.ค. สูงสุดในรอบ 41 ปี และสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ระดับ 2%
- สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 190,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย

 


 

- ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย ระบุเตือนองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่า ความพ่ายแพ้ของรัสเซียในยูเครนอาจทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์
- กบง.เตรียมขึ้นก๊าซหุงต้มเดือนมี.ค.นี้อีก 15 บาท อยู่ที่ 423 บาท/ถัง จากปัจจุบันตรึงไว้ที่ 408 บาท/ถัง ถึงแค่ 28 ก.พ.นี้เท่านั้น ยืนยันลดค่าไฟกลุ่มเปราะบางงวด ม.ค.-เม.ย. ตามเดิม

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนกังวลว่าข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะผลักดันให้เฟด เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ขณะที่ราคาน้ามันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,680-1,695 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
• การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องและจีนเปิดประเทศ : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
• หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเริ่มคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
• หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
• หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
• หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BBL COM7 CPALL

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                                                DMT
                                               “มุมมองเชิงบวกต่อปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

•งวด 9M65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 545 ลบ. +119%YoY มาจากรายได้ค่าผ่านทาง เท่ากับ 1,280 ลบ. +57% YoY สาเหตุหลักจากการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง และการปรับลดมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย เช่น เมื่อเดือนพ.ค. 65 ยกเลิก Test & Go ในขณะที่ปี 64 มีการจำกัดการเดินทางในหลายๆเดือน ส่งผลให้ในปี 65 มีจำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

•บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2566 โต 30% โดยคาดปริมาณการจราจรเฉลี่ยที่ 110,000 คัน/วัน ในขณะที่ทั้งปี 65 มีปริมาณการจราจรเฉลี่ยที่ 85,307 คัน/วัน คิดเป็นการเติบโตราว 29% และปี 64 เฉลี่ยที่ 57,169 คัน/วัน ในปี 2566 บริษัทเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลงานหลักๆดังนี้ 1.โครงการ M5 ช่วงรังสิต - บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. มูลค่า 39,956 ลบ. คาดเปิดประมูลช่วงปลายปี 66 2.โครงการ M82 ช่วงบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ระยะทาง 24.7 กม. มูลค่า 45,370 ลบ. คาดเปิดประมูลช่วงกลางปี 66 และ 3.โครงการกระทู้ - ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 4 กม. มูลค่า 14,177 ลบ. ในปัจจุบันบริษัทได้เข้าซื้อซองการประมูลแล้ว

ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวก ต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลบวกต่อปริมาณการจราจรของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการทางยกระดับดอนเมือง (Tollway) โดยราคาปัจจุบัน ซื้อขายที่ P/E ระดับ 22x เทียบกับ P/E ของกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์(TRANS) ที่ 69x และจุดเด่นคือการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ อัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 2.5% ต่อปี (นโยบายปันผล ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสำหรับปี)

 

หุ้นมีข่าว

(+) NEX (Bloomberg consensus 24.00 บาท) รับผู้ประกอบการแห่สนอีวีพาณิชย์ แย้มเจรจานับร้อยราย ไตรมาส 1/2566 ส่งมอบรถไม่ต่ำ 700 คัน ทั้งปีส่งมอบเกิน 6 พันคัน ก.พ.นี้เปิดตัวกระบะไฟฟ้า จับตา 23 ม.ค. ประชุมบอร์ดอีวีส่งเสริมแบตเตอรี ดันต้นทุนรถอีวีลง มั่นใจรายได้ตามเป้า 2.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MINT (Bloomberg Consensus 37.26 บาท) ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2566 เติบโต 20% มั่นใจ อีบิทดาและกำไรสุทธิเติบโตมากกว่ารายได้ หนุนจากการปรับขึ้นค่าห้องพัก ด้านธุรกิจอาหารเน้นปรับเมนูกระตุ้นการซื้อซ้ำ ด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์โตดี พร้อมตั้งงบลงทุนระยะ 3 ปีราว 1-1.5 หมื่นล้านบาท ลงทุนโรงแรม ทั้งการขยายและปรับปรุง ขยายสาขาร้านอาหาร รวมถึงการเข้าควบรวมกิจการในอนาคต แถมเล็งออกหุ้นกู้วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 6.1% ต่อปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HL (Bloomberg consensus - บาท) รับสองเด้ง! มาตรการช้อปดีมีคืน หนุนยอดขายพุ่ง พร้อมรับอานิสงส์จีนเปิดประเทศแห่ซื้อยาตุน ฟากผู้บริหารกางแผนปีกระต่าย เตรียมเปิดสาขาใหม่ให้ครบ 50 แห่ง จากปีก่อนที่มีสาขาทั้งสิ้น 36 แห่ง คาดใช้งบสาขาละ 6-7 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BBIK (Bloomberg consensus 160.00 บาท) ส่งสัญญาณผลงานปี 2566 พุ่งขึ้นเท่าตัว ทะลุ 1 พันล้านบาท พร้อมส่งซิกงบโค้งแรกโดดเด่น หลังเข้าลงทุน Digital Delivery จาก MFEC เสริมทัพ อวดแบ็กล็อกในมือหนา 600 ล้านบาท คาดรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้ แย้มอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนดีลใหม่ 5-6 ดีล (ที่มา ทันหุ้น)