ตลาดกำลังหมุนกลุ่มไปยังหุ้นที่มีการถือครองต่ำ แต่อาจเป็นแค่ฟื้นตัวช่วงสั้น

ตลาดกำลังหมุนกลุ่มไปยังหุ้นที่มีการถือครองต่ำ แต่อาจเป็นแค่ฟื้นตัวช่วงสั้น

ยังมองบวกระยะกลางขณะที่ระยะสั้นไม่มีปัจจัยผลักดันชัดเจน เรายังคงมุมมองบวกระยะกลางของหุ้นไทย ที่น่าจะได้อานิสงค์จากเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าจากการเป็นแหล่งลงทุนที่มีปลอดภัย (safe haven) เศรษฐกิจมีโมเมนตัมการเติบโตที่ดีกว่าภาพรวมของโลก

ขณะที่มีหนี้สินต่ำ และมีทุนสำรองสูง อย่างไรก็ตามระยะสั้นตลาดอาจไร้ปัจจัยผลักดันที่ชัดเจน ประเมินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ลดความตึงตัวจะยังเป็นบวกกับภาพรวมของสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการส่งออกที่จะเริ่มติดลบในอัตราเร่งจากนี้ จะเป็นปัจจัยฉุด กลุ่มทีเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก // แม้ระยะสั้นอาจเห็นกลุ่มที่มีการถือครองต่ำหรือหุ้นที่ปรับลดลงมาเยอะฟื้นตัวขึ้นได้ดี แต่ประเมินอาจเป็นแค่การการฟื้นตัวระยะสั้น การเก็งกำไรกลุ่มดังกล่าวจึงควรกำหนดจุดทำกำไรและตัดขาดทุน และการปรับฐานในหุ้นกลุ่มเปิดเมือง ยังเป็นโอกาสในการทยอยเข้าลงทุน

 

ส่งออก พ.ย.-ธ.ค. อาจติดลบในระดับ 10-20% เรามีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ 1) การแข็งค่าขึ้นของอัตราแลกเปลี่ยนที่กระทบต่ออัตรากำไร 2) การชะลอตัวของโมเมนตัมการส่งออก หลัง supply shortage ทำให้ ตัวเลขส่งออกช่วง 2H64-1H65 สูงผิดปกติ การกลับเข้าสู่แนวโน้ม (Normalization) ในช่วงปลายปี 65-ต้นปี 66 จึงน่าจะทำให้ตัวเลขส่งออกติดลบในระดับ 10% และอาจสูงถึง 20% ในช่วง พ.ย.-ธ.ค.65 นี้ ซึ่งจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกทั้งหมด

 


 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR  2) การขายไฟพลังงานมทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP 3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด ADVANC, EGCO, RATCH 4) อสังหาริมทรัพย์ SPALI, AP, LH, ASW 5) หุ้นเข้า FTSE (มีผล 16 ธ.ค.) ได้แก่ TLI และ PLUS 6) มีโอกาสเข้า SET50 ได้แก่ DELTA, RATCH, COM7 / มีโอกาสหลุด SET50 ได้แก่ SAWAD, BLA, KCE 7) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ STP, TNR, DMT, TVDH, KLINIQ

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,635-1,650 จุด กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ เน้นกลุ่มหุ้นเปิดเมือง และบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ สอดรับกับการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และสามารถเลือกกลุ่มไฟฟ้าและลพังงานทดแทนที่จะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 9 ธ.ค. //หุ้นแนะนำ: CPALL*, MAJOR*, TIDLOR*, SORKON*

แนวรับ: 1,627 / แนวต้าน : 1,650-1,680 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 


 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐหดตัวครั้งแรกรอบกว่า 2 ปี – ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 50.4 ในเดือนต.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 47.6

ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐหดตัวครั้งแรกรอบกว่า 2 ปี - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าคาดที่ระดับ 49.8 

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด- ลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 236,000 ราย

สหรัฐเผยดัชนี PCE บ่งชี้เงินเฟ้อผ่านจุดพีค - ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.3% ในเดือนก.ย.

จับตาสหรัฐเตรียมตัดสินเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อแผงโซลาร์เซลล์ไทยวันนี้ - จากกรณีแผงโซลาร์เซลล์จากทั้ง 4 ประเทศ (ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา) มีส่วนช่วยให้จีนหลีกเลี่ยงมาตรการด้านภาษี ซึ่งหากผิดอาจมีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังสูงถึง 250%

ดัชนี PMI ภาคการผลิตยูโรโซนหดตัวเป็นเดือนที่ 5 – ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 47.1 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 46.4 ในเดือนต.ค. 

ABPIF - กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) ซื้อขายวันสุดท้าย 6 ธ.ค. และขึ้น SP 7-9 ธ.ค. จากนั้นพ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 10 ธ.ค.

ABICO - บริษัท เอบิโก้ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ABICO) จัดโครงสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่ โดยทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อชำระเป็นหุ้น MALEE ด้วยอัตรา 1 หุ้น ABICO : 1.12930899 หุ้น MALEE โดยสิ้นสุดระยะเวลาตอบรับคำเสนอซื้อ 9 ธ.ค. สำหรับผู้ที่ประสงค์จะซื้อหุ้นในตลาดเพื่อนำมาแลกหุ้น MALEE ซื้อได้วันสุดท้าย 7 ธ.ค. (ซื้อวันที่ 8 ธ.ค. จะไม่สามารถนำมาแลกได้ทัน)

Opportunity Day – 2 ธ.ค. - SENAJ, MEGA, APCO, DITTO, BAFS, SCN, DUSIT / 6 ธ.ค. – SAWAD, NER, RT, MC, PORT, AMATAV, SHR / 7 ธ.ค. – PSTC, CRC, AIMRT, SA, SISB, SELIC, TEGH / 8 ธ.ค. – MAKRO, THANA, WINMED, AMR, TRU, ACE

หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ A5, ZIGA 

 

ประเด็นติดตาม: 2 ธ.ค. – Nonfarm Payrolls, Unemployment Rate / 5 ธ.ค. - ISM Non-Manufacturing PMI / 7 ธ.ค. – EU GDP Q3, US Crude Oil Inventories / 9 ธ.ค. – US PPI

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)