รายงานการประชุมเฟดเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุน

รายงานการประชุมเฟดเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุน

รายงานเฟดสนับสนุนมุมมองการลงทุนของเรา ที่ประเมินเฟดอาจเริ่มตรึงหรือชะลอการขึ้นดอกเบี้ย รายงานการประชุมเฟดรอบพ.ย.มีการระบุถึงความเห็นของกรรมการส่วนใหญ่ที่มองว่า แม้เงินเฟ้อยังไม่ได้ส่งสัญญาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

แต่กรรมการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันที่จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบของนโยบายการเงินที่มีต่อเศรษฐกิจ ซึ่งมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองการลงทุนของเราที่ประเมินเฟดอาจตรึงหรือเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยโดยเฉพาะหลังการประชุมรอบ ธ.ค. ซึ่งจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ผ่อนคลายลง แรงกดดันการขึ้นดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายลงจะบวกกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและอาเซีย ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่น่าจะผ่านจุดสูงสุดแล้วในระยะสั้น จะส่งผลบวกต่อเงินทุนไหลเข้าตราสารหนี้เอเชีย รวมถึงหนุนการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มปลอดภัย (ICT,  ไฟฟ้า, กองรีทส์)

 

น้ำมันดิบและหุ้นพลังงานอาจผันผวนช่วงสั้นจากมาตรการคุมราคาส่งออกรัสเซีย แต่เป็นบวกระยะกลาง-ยาว ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง 3-4% หลังสหภาพยุโรป มีมติเห็นชอบเพดานราคาส่งออกน้ำมันของรัสเซียที่ 65-70 เหรียญ/บาร์เรล แม้ในช่วงสั้นอาจจะเป็นลบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดอื่นๆ แต่ในระยะกลางราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจะยิ่งลดความเสี่ยงของเงินเฟ้อ และลดความเสี่ยงของการเกิดเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เพิ่มกำลังซื้อในกับผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโลกในระยะกลาง-ยาว

 


 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR  2) การขายไฟพลังงานมทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP 3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด ADVANC, EGCO, RATCH 4) อสังหาริมทรัพย์ SPALI, AP, LH, ASW 5) หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.) BAM, ERW, JWD, NEX, RAM และหุ้นเข้า FTSE (มีผล 16 ธ.ค.) ได้แก่ TLI และ PLUS 6) มีโอกาสเข้า SET50 ได้แก่ DELTA, RATCH, COM7, CENTEL 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสทดสอบ 1,635 หลังรายงานเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายทำให้ตลาดระยะสั้นดีขึ้น กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ เน้นกลุ่มหุ้นเปิดเมือง และบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ กลุ่มที่ระยะสั้นมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นคือ 1. ไฟฟ้าและพลังงานทดแทนที่น่าจะเห็นการยื่นขายไฟชุดใหญ่สัปดาห์นี้ และ 2. กลุ่มธนาคาร จากคาดการณ์กนง. อาจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 30 พ.ย. //หุ้นแนะนำ: GUNKUL*, MAJOR*, VRANDA*, STP*

แนวรับ: 1,605-1,614 / แนวต้าน : 1,628-1,635 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 


 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐ เผยยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น สวนทางคาดการณ์ - เพิ่มขึ้น 7.5% สู่ระดับ 632,000 ยูนิตในเดือนต.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 570,000 ยูนิต

สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 1.0% - สินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย.

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด - เพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 240,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย

EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบในคลังสำรอง SPR ต่ำสุดในรอบ 38 ปี - ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 390.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2527

ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนเพิ่มเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในภาวะหดตัว –ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 47.8 จาก 47.3 ในเดือนต.ค. สวนคาดการณ์ลดลงแตะ 47.0

กทพ.จ่อให้ BEM สร้างและบริหารทางด่วนชั้นที่ 2 แลกขยายสัมปทาน – คาดว่าจะดำเนินการเจรจากับ บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานบริหารจัดการทางด่วน ให้ก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 และเก็บค่าผ่านทาง โดยมีการเจรจาขยายสัญญาสัมปทานเดิมที่เหมาะสม

จับตาสมาคมบล.ออกเกณฑ์หุ้น PE เกิน 50 เท่า ใช้ Cash Balance – หลังเคส MORE

AWC,CRC ติดคำนวณดัชนี MSCI ความผันผวนต่ำ – MSCI Minimum Volatility Index คาดเม็ดเงินเข้าลงทุนรวมกันกว่า 2.3 พันลบ. เพิ่มน้ำหนักลงทุน OSP มีผลวันที่ 30 พ.ย.

MAKRO – รายการ Big lot 160 ล้านหุ้นที่ 37.75 บาท น่าจะทำให้สัดส่วน free float ขึ้นมาแตะ 15% ทำให้หุ้นมีโอกาสเข้าคำนวณดัชนีสำคัญๆต่างๆ และเพิ่มความน่าสนใจให้กับนักลงทุนสถาบัน ราคาเหมาะสม อิง concensus เฉลี่ย 40 บาท (สูงสุด 48 บาท)

Opportunity Day – 24 พ.ย. - COLOR, LHK, PYLON, WPH, TQM, ILM, GLORY, CPALL, PTTGC, BTS+BTSGIF, LALIN, THCOM, SICT, WHAUP / 25 พ.ย. – S +SPRIME, TVD, MICRO, DMT, NVD, THANI, SEAFCO, VCOM, RPH, TPIPL, AH, JKN, NCL

 

ประเด็นติดตาม: 24 พ.ย. - ECB Publishes Account of Monetary Policy / 29 พ.ย. - CB Consumer Confidence /30 พ.ย. – 24 พ.ย. - ECB Publishes Account of Monetary Policy / 29 พ.ย. - CB Consumer Confidence / 30 พ.ย. – TH Interest Rate Decision, EU CPI, US GDP Q3, JOLTs Job Openings, US Pending Home Sales, US Crude Oil Inventories

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)