BDMS โมเมนตัมยังเป็นบวกต่อเนื่อง (21 พ.ย. 2565)

BDMS โมเมนตัมยังเป็นบวกต่อเนื่อง (21 พ.ย. 2565)

หลังจากที่ผลประกอบการใน 3Q65 ออกมาน่าประทับใจ เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของกำไร BDMS ในปี 2565-2566 กำไรสุทธิของ BDMS ใน 3Q65 อยู่ที่ 3.39 พันล้านบาท (+34.9% YoY, +27.1% QoQ) คิดเป็น 28.8% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 1.176 หมื่นล้านบาท 

ในขณะที่กำไรสุทธิในงวด 9M65 คิดเป็น 80.7% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา เมื่อพิจารณาจากงบ 3Q65 ผลการดำเนินงานของบริษัทแข็งแกร่งมากจากทั้งผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ โดยใน 3Q65 รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น 74% YoY เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่บินเข้ามาใช้บริการฟื้นตัวขึ้น (ตะวันออกกลาง, CLMV และบังกลาเทศ) ในขณะที่ผู้ป่วยชาวไทยที่ไม่ได้ติด COVID กลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น  ดังนั้น สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวไทย และต่างชาติใน 3Q65 จึงเปลี่ยนเป็น 76:24 ใน 3Q65 จาก 83:17 ใน 3Q64  ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่บินเข้ามาใช้บริการทำให้ occupancy rate โดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 71% ใน 3Q64 เป็น 76% ใน 3Q65 ในขณะที่ occupancy rate โดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 57% ในงวด 9M64 เป็น 75% ในงวด 9M65 เรามองว่าโมเมนตัมด้านบวกจะได้แรงสนับสนุนจาก i) การเลื่อนเข้ารับการรักษา ii) ผู้ป่วยมี intensity สูง และ iii) ฐานผู้ป่วยกลุ่มประกันอยู่ในระดับสูง (32% ของรายได้รวมในงวด 9M65)

ธุรกิจยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง

ตามที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เรายังคงคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะแข็งแกร่งใน 2H65 โดยที่กำไรน่าจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง YoY ในปี 2565 ทั้งจากผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยชาวไทย นอกจากนี้ เราเชื่อว่า ผลประกอบการของ BDMS จะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องทั้งใน 4Q65 และในอีกสองสามปีข้างหน้าจากการกลับมาของผู้ป่วยทั้งชาวไทย และต่างชาติหลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น, platform ของบริการด้านการแพทย์ที่แข็งแกร่ง โดยมีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ และขยายบริการไปครอบคลุมด้านการป้องกัน (preventive care)

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565F ขึ้นอีก 8.4% และปี 2566F ขึ้นอีก 4.2%

เมื่ออิงจากผลการดำเนินงานใน 9M65 และผลการดำเนินงานที่อาจจะแข็งแกร่งเกินคาดในช่วงต่อไป เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F และ 2566F ขึ้นอีก เนื่องจากเรา i) ปรับเพิ่มอัตราการเติบโตของรายได้ของทั้งสองปีขึ้นจากประมาณการเดิมอีก 2.6% และ ii) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2565F และ 2566F เป็น 35% (จากเดิมที่ 33.3% และ 34.0% ตามลำดับ) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F เป็น 1.275 หมื่นล้านบาท (+60.6% YoY) และปี 2566F เป็น 1.373 หมื่นล้านบาท (+7.7% YoY)

 

 

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และปรับราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ใหม่เป็น 36.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.0%และ TG ที่ 3.0%) จากเดิมที่ 36.20 บาท เรายังคงเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงพยาบาล

 

Risks

COVID-19 ระบาด, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่