สายย่อรอเด้ง (17 พฤศจิกายน 2565)

สายย่อรอเด้ง (17 พฤศจิกายน 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index -9 จุด (-0.58%) ปิดที่ระดับ 1,620 จุด กังวลข่าวขีปนาวุธรัสเซียตกในโปแลนด์ และนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังมีกระแสต้านปรับขึ้นค่า Ft 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,610 - 1,615 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าคาดการณ์ FED ชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยยังคงแรงหนุนต่อดัชนี อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net sell 3 วันติดกันราว 4 พันลบ. ประกอบกับการแพร่ระบาด Covid-19 ในจีนที่พุ่งขึ้นเป็นแรงกดดันต่อดัชนี ดังนั้นยังคงแนะนำ Selective buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวต่อไป

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

       AOT CENTEL ERW BA AAV SISB CPN CRC CPALL WHA อานิสงส์การเปิดประเทศ

       MTC SAWAD KTC AEONTS ASK อานิสงส์ US Bond yield อ่อนตัวลง

       BEM BTS BH BDMS INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงตลาดผันผวน

 

หุ้นแนะนำวันนี้

      IVL (ปิด 42.5 ซื้อ /เป้า 54 บาท) คลายกังวลข่าวขีปนาวุธตกในโปแลนด์, ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปลดลง 8% สู่ระดับ 113.9 ยูโร/MWh, IVL ประกาศจ่ายปันผล 0.40 บาท XD 29 พ.ย. และจ่ายปันผล 15 ธ.ค. 22

     SCB (ปิด 106.5 ซื้อ/เป้า 155 บาท) มี Sentiment บวกจากคาดการณ์ GDP 3Q22 และปีหน้าขยายตัวดี แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิดีสุดของกลุ่มในปีหน้า ราคาหุ้นยัง Laggard สุด โดย YTD SCB -16% ขณะที่ BBL+17%

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

BANPU (ปิด 12.5 ซื้อ /เป้า 20), BCH (ปิด 20.2 ปรับเป็นซื้อ /เป้าใหม่ 26)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (+) NATO ระบุขีปนาวุธที่ตกในโปแลนด์อาจไม่ใช่ของรัสเซีย: เลขาธิการ NATO และ ปธน.โจ ไบเดน ของสหรัฐออกมาระบุในทิศทางเดียวกันโดยคาดว่าขีปนาวุธดังกล่าวน่าจะเกิดจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่ยิงสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย นับเป็นข่าวดีช่วงลดความกังวลให้กับตลาด

  (+) ธปท. คาด GDP 3Q22 ของไทยจะขยายตัวมากกว่า 3%: สภาพัฒฯ จะประกาศตัวเลข GDP 3Q22 ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ การคาดการณ์ของ ธปท.สอดคล้องกับตลาด โดย BB Consensus คาด GDP 3Q22 ของไทยจะขยายตัว 4.3% สูงขึ้นจาก 2.5% ใน 2Q22 เป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มธนาคาร

  (+/-) จับตาประชุม APEC ลุ้นผลักดันเขตการค้าเสรี FTAAP: APEC 2022 จัดขึ้นในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย.นี้ ประเด็นที่จับตามองมากที่สุดคือการผลักดันเขตการค้าเสรี FTAAP หากสำเร็จจะมีขนาดเศรษฐกิจสูงถึง 52 ล้านล้านเหรียญคิดเป็น 60% ของ GDP โลกเป็นบวกต่อภาคการค้า ส่งออก และนิคมฯ ของไทย